Pineapple TH-PH

Done

Tuesday, September 16, 2008

เผยวิธีพิชิตใจสาวให้อยู่หมัด ให้มองหน้าตรงส่ง ยิ้มเอ่ยวาจา

เผยวิธีพิชิตใจสาวให้อยู่หมัด ให้มองหน้าตรงส่ง ยิ้มเอ่ยวาจา

หนุ่มๆที่พยายามลองจีบสาวมาหลายวิธีแล้ว แต่ยังไม่สู้ได้ผลนัก ให้ลองใช้วิธี อย่างที่คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีนพบ ในการศึกษาวิจัยมาสดๆ ร้อนๆ

นายเบน โจนส์ หัวหน้าคณะนักวิจัยเผยผลการศึกษาวิจัยว่า วิธีทำให้ผู้หญิงเกิดความสนใจนั้นไม่ยาก เคล็ดอยู่ตรงที่หากชอบใคร ก็จงบอกให้เจ้าตัวเขาได้รู้ วิธีง่ายๆนั้นเพียงแค่แสดงความรู้สึกบอกออกไปพร้อมกับมองประสานสายตา ส่งยิ้ม หรือไม่ก็แค่บอกว่า "ผมชอบคุณจริงๆ" เพียงแค่นี้ก็จะได้รับการสนองตอบกลับมา

นักวิจัยได้สรุปจากการทำกลุ่มทดสอบชายและหญิง 230 คน ให้มองดูบัตรรูปภาพ 4 แบบ ที่แสดงการแสดงออกทางใบหน้าต่างกัน

"สิ่ง ที่เราพบแสดงให้เห็นว่าคนเราชอบใบหน้าคนที่น่าดึงดูดใจ เมื่อใบหน้านั้นมองตรงมาและยิ้มให้" นายโจนส์อธิบาย การศึกษาครั้งนี้สรุปว่าความดึงดูดใจนั้นที่จริงแล้วอยู่ที่ว่าคนในกลุ่ม นั้น จะสามารถผนวกรวมเอาความงามตามธรรมชาติเข้ากับ "มารยาทสังคม" ได้อย่างไร.

Will Power (Please turn your speaker on)

ต่อสู้เพื่ออะไร?

หลายเดือนก่อนน้องของเพื่อนคนหนึ่งส่งเทปมาให้
เป็นเทปที่อัดจากการพูดคุยของพี่ศุ บุญเลี้ยงกับแฟนๆ ของเขาในงานสัมมนางาน
หนึ่ง
เป็นมุมมองและความคิดของชายหนุ่มที่ไฟความฝันไม่เคยมอดคนนี้

โดยรู้ว่ากิจกรรมอย่างหนึ่งในชีวิตที่ศุบุ-เลี้ยงชอบมากและเต็มใจที่จะทำอยู่
เสมอ
นั่นก็คือการทำค่าย..ไม่ว่าจะเป็นค่ายเด็กหรือค่ายคนพิการ (หรือค่ายเด็กพิการ)

ในเทปมีคำพูดของเขาอยู่ตอนหนึ่งที่ฟังแล้วชอบมาก พี่จุ้ย เล่าว่า
ครั้งหนึ่งเขาพาเด็กไปเข้าค่าย แล้วเขาให้เด็กวิ่งแข่งกัน แต่กติกาคือ
ใครเข้าเส้นชัยเป็นที่สอง-ชนะ ชายหนุ่มเล่าว่า…ผลที่เกิดขึ้นก็คือ

แทนที่จะเอาชนะกัน ด้วยการเป็นคนที่เร็วที่สุดที่เข้าเส้นชัย…
เด็กๆ กลับวิ่งแข่งกันอย่างสนุกสนาน

มีเสียงหัวเราะเฮฮาดังขึ้นอย่างร่าเริงในหมู่ผู้แข่งขันที่ไม่ต้องการเป็นที่
หนึ่ง

ในชีวิตที่ผ่านมาบ่อยครั้ง เรามักถูกปลูกฝังให้เอาชนะ
เพื่อขึ้นสู่การเป็นเลิศกันมาตลอด เราอยากเรียนให้ได้คะแนนดีที่สุด
เราอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด

เราอยากเป็นคนทำงานที่เก่งที่สุด เพื่อให้เจ้านายเห็นว่า เราเยี่ยมที่สุดใน
บริษัท
เราอยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ฯลฯ
และเมื่อตั้งเป้าอย่างนี้แล้ว เราจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุจุดหมาย

โดยบ่อยครั้งที่เราหลงลืม หรือจงใจมองข้ามมันไปว่า เราได้ทำร้ายใครบ้างหรือ
เปล่า ?
ไม่ได้หมายความว่า การแข่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายไปซะหมด
มันมีความดีอยู่บ้างในตัวของมัน อย่างน้อยก็ทำให้เราไม่เป็นคนเอื่อยเฉื่อย
เดินหายใจไปวันๆ เพียงอยากให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคน ได้หยุดคิดสักนิดว่า
เราสามารถที่จะแข่งขันกันโดยไม่ต้องขัดขา ว่าร้าย ผลักหลัง
หรือแอบเหยียบเท้าฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่ ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้
คิดว่าได้อยู่แล้ว ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใคร
ผลลัพธ์ได้แค่ไหนก็แค่นั้น มีไมตรีจิตรที่ดี
สร้างพันธมิตรย่อมดีกว่าก่อศัตรูเป็นแน่

ขงเบ้ง

 

นโปเลียน

 

เหมา เจ๋อ ตุง

 

ได้อย่าง...เสียอย่าง งาน : ครอบครัว

ได้อย่าง...เสียอย่าง

คอลัมน์ โรคแห่งการบริหาร

โดย สุจินต์ จันทร์นวล

ใน การเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีจุดมุ่งหมาย มีความตั้งใจ กอปรกับความรู้ความสามารถจากพื้นฐานการศึกษา ทำให้เขาโดดเด่นมาก ตั้งแต่การเริ่มงานในฐานะลูกจ้าง เป็นหัวหน้าแผนกตั้งแต่ยังหนุ่ม

ใน บทบาทผู้นำของเขา ไม่ว่าจะเป็น ลูกน้องหรือนาย เขาทำได้ชนิดที่ลูกน้องรักนายชอบ เพราะความทุ่มเทกับงาน และจริงใจกับลูกน้อง ผลงานและความสำเร็จ จึงส่งให้เขาก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ

เมื่อ ที่ใดไม่มีหนทางหรือโอกาสให้เขา ได้เดินทางไปสู่จุดหมาย และความคาดหวังที่เขาวางไว้ เขาก็จะไปเสาะหาที่ที่เปิดโอกาสให้เขา ได้พิสูจน์ในความสามารถและตัวตนของเขา

ตลอดเวลาในการเล่นบทผู้แสวงหา นี้ ดูเหมือนชีวิตของเขามีแต่งาน ลูกน้อง การแก้ปัญหา และการฝ่าฟันกับอุปสรรคขวากหนาม เขาหันหลังให้กับชีวิตในวัยหนุ่ม ที่มักจะตื่นเต้นและหลงระเริง ไปกับความรื่นรมย์ของไลฟ์สไตล์คนหนุ่ม กิน เที่ยว เฉี่ยวโฉบสาวๆ

มันเหมือนกับโชคที่เข้าข้าง เพราะงานแต่ละงานที่เขาได้รับโอกาสนั้น มันเป็นงานที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้เป็นอย่างดี เพราะผลงานที่สำเร็จนั้น มันเป็นรูปธรรม ที่เห็นกันชัดเจน อ้างอิงได้เต็มปากเต็มคำ ว่านี่แหละคือฝีมือและผลงานที่เกิดขึ้น

จากผลงานและความสำเร็จ เบื้องหลังมันก็คือความรู้ความสามารถในหน้าที่ ที่ได้รับ แน่นอนว่ามันต้องเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กับคุณสมบัติในความเป็นผู้นำ ในการบริหารคนบริหารลูกน้อง ซึ่งมันก็เข้าตาผู้บริหารระดับสูง ที่กำลังมองหาดาวรุ่งมาเข้าในสังกัด เพื่อทำงานใหญ่

โอกาสนั้นจึงถูกหยิบยื่นมาสู่เขา กับตำแหน่งที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เริ่มทำงาน มันเป็นจริงเร็วกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้เสียอีก พร้อมๆ ไปกับความประหวั่นพรั่นพรึง กับโอกาสที่พุ่งเข้ามาหาเร็วเกินไป เนื่องจากเขายังไม่น่าจะพร้อมที่จะรับมือ กับมัน พอๆ กับการที่เรียนมัธยมยังไม่จบดี แต่ได้สิทธิให้ขึ้นปีหนึ่งมหา"ลัยเลย

แต่ คนอย่างเขาไม่เคยย่อท้อ เขามองว่าโอกาสเช่นนี้คงหาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้ มันเหมือนมีคนเอาบันไดมาตั้งไว้ตรงหน้า แล้วบอกว่าถ้าอยากขึ้นสูงไปสู่ความฝัน มันรออยู่แล้วที่ด้านบน ก็จงไต่มันขึ้นไป ในขณะที่คนอื่นไม่มี ต้องหาทางปีนป่ายกันขึ้นไปเอง

เขา จึงยิ่งอุทิศเวลาของชีวิตแทบทั้งหมด ให้กับโอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้ หนักกว่าที่เคยผ่านๆ มาทุกช่วง จนแทบจะไม่มีเวลาว่าง ไม่มีวันหยุดให้กับครอบครัว งานมาก่อน ครอบครัวมาทีหลังเสมอ

จนเมีย เขาทนไม่ไหว ที่รู้สึกว่าเขาให้ความสำคัญกับเธอน้อยเกินไป จนเปรียบเปรยว่าเธอเสมือนเมียน้อย เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเขาต้องอยู่กับเมียหลวง คือบริษัท คืองานของเขา แน่นอนว่าบรรยากาศในครอบครัว ที่เพิ่งก่อร่างสร้างกันขึ้นไม่กี่ปี ผัวหนุ่มเมียสาวกับลูกน้อยที่ยังเล็ก ขาดความอบอุ่นและสมดุล เพราะตัวสามีและพ่อนั้น อุทิศเวลาให้กับงานให้กับ ลูกน้อง มากกว่าเมียและลูกเสียอีก

มิไยที่เขาจะพยายามอธิบาย ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นให้เธอเข้าใจ ว่าที่เขาต้องทำแบบนี้ เพื่ออะไร เพื่อใคร ชีวิตของครอบครัวลูกเมีย อนาคตความเป็นอยู่ และคุณภาพของชีวิตจะดีขึ้น ชีวิตคู่ที่เริ่มต้นด้วยฐานะเป็นศูนย์ มันจะลืมตาอ้าปากขึ้นได้มากเท่าไหร่ ก็ต้องอาศัยสมองและ สองมือนี่เท่านั้นแหละ ซึ่งมันก็ต้องมีโอกาสที่อำนวยให้ด้วย

และ เมื่อมันมาถึง ก็ต้องไขว่คว้าโอกาสนี้ไว้ ปล่อยมันหลุดลอยไปไม่ได้ และต้องทำมันให้สำเร็จ มันเป็นภาวะ อิต นาว ออร์ เนเวอร์ ถ้าไม่เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีวันอีกแล้ว เขามีเดดไลน์ที่จะต้องทำงาน ให้เสร็จทันตามกำหนด และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นการแจ้งเกิดของเขา หากมันไม่เสร็จ เวลาและความทุ่มเทที่เสียไป มันก็เปล่าประโยชน์ บรรยากาศในครอบครัวลุ่มๆ ดอนๆ เกิดมีปากเสียงกันบ่อยและถี่ขึ้น ในเมื่อเขาเดินหน้าเต็มตัวให้กับงานตามที่พูดไว้ เมียก็ดับเครื่องชน การปะทะกันชนิดแตกหักก็ เกิดขึ้น เมื่อเมียให้ทางเลือกกับเขาสองทาง คือจะเลือกงานหรือเลือกเมีย ถ้าเลือกงานก็ต่างคนต่างไป

เขามีคำ ตอบอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงสิ้นสุดลงตรงนั้น ในขณะเดียวกันไม่นาน เขาก็สามารถสร้างผลงานได้สำเร็จ มีคนปูพรมเชื้อเชิญให้เขาไปรับงานในตำแหน่งที่ได้เคยฝันไว้ ชีวิตการงานของเขาถึงจุดเปลี่ยนทันที เช่นเดียวกับการสูญเสียครอบครัวไป

ผู้ หยิบยื่นโอกาสและสนับสนุนเขา ไม่ได้ผิดหวังในตัวเขาสักนิดเลย ทุกอย่างจึงพุ่งทะยานไปปานจรวด ทั้งตำแหน่งและรายรับ จากผลงานที่ดีเลิศ ด้วยการทุ่มเทและอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับงาน เพื่อจะได้ไม่ให้ความผิดหวังและเจ็บปวด จากการที่ครอบครัวแตกสลายมาทำลายเขาได้ ถึงกระนั้นเขาก็มิได้ละทิ้งความรับผิดชอบในการส่งเสียเลี้ยงดู และไปเยี่ยมเยียนลูกเป็นประจำ

การเป็นพ่อม่ายที่อยู่ในระดับผู้ บริหารขนาดนั้น มีหรือที่เส้นทางจะไม่แผ้วพาน กับหญิงสาวที่พยายามยื่นใบสมัครขอเป็นเพื่อนคู่ชีวิตเขาอีกคำรบ หลังจากหลบหลีกอยู่หลายปี เขาก็ถูกต้อนเข้ามุมอีกครั้งจนได้ แต่คราวนี้ เขาตั้งใจที่จะไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก โดยสร้างข้อแม้กับคนที่จะมาใช้นามสกุลเดียวกับเขาว่า สำหรับเขา งานมาก่อน ครอบครัวทีหลัง อย่าพยายามเปลี่ยนเขาเป็นอันขาด

ก็เข้าอกเข้าใจกันดี ครอบครัวมีสุข เป็นปึกแผ่นมีฐานะขึ้น พร้อมๆ กับความสำเร็จในหน้าที่การงาน จนสามารถขึ้นไปในระดับสูงสุด ของการมีอาชีพเป็นนักบริหาร ดูแลรับผิดชอบบริหารธุรกิจให้เจ้าของบริษัท ระดับเป็นร้อยล้าน

ได้ รับชื่อเสียงในฐานะนักบริหารมีฝีมือ มีผลงานและความสำเร็จเป็นการันตี รวมทั้งกิตติศัพท์ในความสุจริตและขาวสะอาด เขาได้รับงานใหญ่ๆ ที่ท้าทายอยู่ตลอดเวลา คราวนี้คนเป็นเจ้าของเงินไม่ต้องคิด เขาเป็นผู้คิดแทนว่าควรจะต้องทำอะไร ไอเดียในเชิงธุรกิจที่เฉียบแหลม ทำให้เขาสามารถเอาเงินคนอื่นเป็นสิบๆ ล้าน มาพิสูจน์ความสามารถของเขาเองได้สบายๆ ด้วยการคืนทุนในเวลาเท่าไหร่ และทำกำไรปีละเท่าไหร่

คราวนี้เขาพยายามประคองนาวาชีวิตครอบครัว ไว้ให้ยาวนานอย่างสุดความสามารถ เมื่อภรรยาเริ่มบอกกับสามีว่า ไปทำให้คนอื่นรวยทำไม มันน่าจะทำให้ตัวเองรวยสิ ถึงจะถูก เป็นลูกจ้างเขามันก็เท่านั้น ชาตินี้ยังไงก็ไม่รวย พร้อมๆ กับกดดัน ให้ลาออก และมาสร้างธุรกิจของตัวเอง

เขาพยายามให้เหตุผล ว่าการรับจ้างเขากับการทำเองนั้น มันต่างกันอย่างไร ไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ เขารู้จักตัวเองดี ประเมินตัวเองและวางหลักแนวทางไว้แล้ว ว่าเขาทำอะไรได้ดีที่สุด เขาเป็นอะไรได้ดีที่สุด การยึด อาชีพนี้ของเขาจะไม่มีวันล้มเหลว เพราะเขามีความเชื่อมั่นในตัวเองพอ เขาไม่ต้อง การเอาอนาคตและชีวิตของลูกๆ มาเสี่ยง อะไรจะเกิดขึ้นหากทำเองแล้วไม่สำเร็จ

ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกจนได้ เขาพลาดแล้วก็พลาดอีก เมื่อเขาถูกกดดันหนักเสียจนถึงขั้นแตกหัก เมื่อเขาไม่ทำธุรกิจเอง เมียก็จะทำ โดยการแบ่งทรัพย์สินและ แยกทาง เขาเหลือเพียงตัวเปล่าอีกครั้ง ตั้งต้นจากศูนย์ใหม่ เพราะเขายกทรัพย์สินที่มีให้ไปหมด ออกจากบ้านแต่ตัวกับภาระต่อเนื่อง คือการส่งเสียเลี้ยงดูลูก

คราวนี้เขาเข็ดหลาบและแหยงกับชีวิตคู่ ขออยู่เป็นพ่อม่ายเลี้ยงดูลูกๆ เอง ชีวิตของเขาก็ยังโลดแล่นอยู่กับงานที่เขารักเขาชอบ นั่นคือการรับจ้างเป็นนักบริหาร ผูกพันอยู่กับการสร้างการฝึกลูกน้อง ไปพร้อมๆ กับการบริหารธุรกิจ วิถีของเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง ขึ้นได้สูงสุดเหมือนอย่างที่เขาใฝ่ฝันไว้ จนติดลมบนแล้ว

เมื่อลูก น้องที่สนิทๆ ถามเขาในวันหนึ่ง หลังการวางมือจากชีวิตการรับจ้างว่า คนหลังเกษียณที่อยู่ลำพังโดยไม่มีครอบครัวนั้นเป็นอย่างไร เหงาไหม รู้สึกโดดเดี่ยวไหม

คำตอบของเขาก็คือมันก็มีบ้าง แต่ก็แค่แวบๆ เดี๋ยวก็หาย เพราะมีอะไรให้ทำเยอะ สมัยที่ทำงานมันไม่มีเวลาว่างพอที่จะทำ ก็เลยไม่ได้มีเวลาปล่อยให้ตัวเองล่องลอย

คำถามต่อไปคือ หากย้อนเวลากลับมาได้ อยากให้ชีวิตเป็นอย่างไร จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

เขา บอกว่า เขาอุทิศตัวเองให้กับหน้าที่ ให้กับคนอื่นมากเกินไป เมื่อเทียบกับการที่เขาให้ครอบครัว มันคือความผิดพลาดที่ต้องแก้ไข หากเขาแบ่งเวลาได้ถูกต้อง โดยลดความเป็นตัวของตัวเองลงบ้าง วันนี้เขาคงไม่ต้องมาตอบคำถามเช่นนี้

คิดว่าคุ้มไหมกับความสำเร็จในชีวิต การงาน และความล้มเหลวเรื่องครอบครัว

เมื่อก่อนคิดว่าคุ้ม แต่มาถึงตอนนี้คิดว่าไม่คุ้มแล้ว จำไว้เป็นตัวอย่างแล้วกัน จะได้ไม่ผิดพลาดเช่นเขา

กระซิบให้ไปฮันนีมูนรอบ 2 คู่ครองที่กำลังมีความ รักเปราะบาง

กระซิบให้ไปฮันนีมูนรอบ 2 คู่ครองที่กำลังมีความ รักเปราะบาง

คู่ครองที่ต้องการปรับชีวิตรักให้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีก ควรจะไปเที่ยวพักผ่อน "ฮันนีมูนรอบ 2" กันอีก อาจจะให้ผลดีเป็นที่อัศจรรย์ไม่แต่เพียงกับหัวใจ จิตใจและวิญญาณเท่านั้น

หนังสือพิมพ์รายวัน "เดอะ เทเลกราฟ" ชื่อดังของอังกฤษ รายงานว่าคณะนักวิจัยกล่าวบอกว่า มันช่วยให้ทิ้งความรู้สึกกดดันทางใจ หรืองานหนัก หัวหมุน วิตกกังวล ภาระความรับผิดชอบ หรือโดยสรุปแล้ว ทำให้ผละจากสิ่งซึ่งบั่นทอนความรักความใคร่ที่เป็นมาเกือบทั้งปีออกไปได้ ระหว่างการพักผ่อน ต่างฝ่ายต่างสามารถคิดถึงแต่เรื่องซาบซ่าได้เต็มที่

ทั้งนี้ เป็นข้อแนะนำของที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวอเมริกันส่วนใหญ่ โดยมากมักจะแนะนำให้ไปเที่ยวพักผ่อนช่วงปลายสัปดาห์

การพักผ่อนนับเป็นการเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางที่เหมาะที่สุด ทั้งคู่จะได้พบกับที่แปลกใหม่ ทำให้สมองขับสารสื่อประสาทโดปามีนออกมา จุดประกายไฟรักให้คุโชนขึ้น ช่วยให้รู้สึกกล้าที่จะลองของใหม่และความตื่นเต้นใหม่ๆ

ทุกสิ่งล้วนแต่ช่วยส่งเสริมชีวิต ต่างฝ่ายต่างเพิ่งจะได้รู้จักกันและกันมากขึ้นอีก รู้สึกเพิ่มพูนความรักความผูกพันมากขึ้น เป็นสิ่งที่เหมาะกับคู่ครองที่ทั้งยังคงรักแรงแข็งขันดีอยู่ และตลอดจนคู่ที่ต้องการจะทะนุบำรุงชีวิตรักของตนให้ดีขึ้นอีกด้วย.

 

เงิน 10บาท .....

good learning point.

เงินสิบบาท

ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร?

ครูคนหนึ่งตั้งคำถามกับเด็กว่า 'ถ้ามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อของ 3 บาท จะได้รับ
เงินทอนเท่าไร' เด็ก
ส่วนใหญ่ตอบว่า '7 บาท' แต่มีเด็ก 2คนที่ตอบไม่เหมือนกับคนอื่น
คนหนึ่งตอบว่า '2 บาท'
อีกคนหนึ่งตอบว่า 'ไม่ต้องทอน'

ครูถามเด็กคนแรกว่าทำไมถึงได้เงินทอน 2 บาท คำตอบที่ได้ก็คือภาพในใจของเขา
สำหรับเงิน 10 บาท
คือ เหรียญห้า 2 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3 บาท เขาก็ให้เหรียญห้า 1 เหรียญ ดัง
นั้น จึงได้เงินทอน
2 บาท

ถามเด็กคนที่สองว่าทำไมไม่เหลือเงินทอนเลย
คำตอบก็คือเด็กคนนี้คิดว่าในกระเป๋ามีเหรียญบาท 10 เหรียญ เมื่อซื้อของราคา 3
บาท เขาก็ส่งเหรียญ
บาทให้ 3 เหรียญ เพราะฉะนั้น คนขายจึงไม่ต้องทอนเงินให้เขา

โชคดีที่เป็นการถาม-ตอบในห้องเรียน ลองนึกดูสิครับว่าถ้าโจทย์นี้เป็นข้อสอบที่
มีคำตอบเป็น ก-ข-ค-ง
เด็ก 2 คนนี้ก็คงไม่ได้คะแนนจากคำตอบที่ผิดเพี้ยนจากคนส่วนใหญ่
การสร้างโจทย์ที่ 'เสมือนจริง' จินตนาการของ 'ครู' อาจถูกจำกัดเพียงแค่ 'ตัว
เลข' แต่สำหรับเด็ก
จินตนาการของเขาไร้กรอบ 10 บาท จึงสามารถเปลี่ยนเป็นเหรียญสิบ เหรียญห้า หรือ
เหรียญบาท

เมืองไทยมีเหรียญ 2 บาท เราจึงได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คำตอบ คือ ได้เงินทอน 1 บาท

โลกในห้องเรียนกับโลกของความเป็นจริงนั้นแตกต่างกัน โลกในห้องเรียน ทุกคำถาม
ส่วนใหญ่มีเพียง 1
คำตอบ แต่โลกของความเป็นจริง ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ถูกต้องได้เกิน 1 คำตอบ

'อย่าตัดสินความผิดของคนๆ นั้น เพียงแค่ คำตอบ ของเรา'

เกร็ดความรู้ เทคนิค 18 วิธีที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข