Pineapple TH-PH

Done

Monday, November 16, 2009

คติ

Monday, October 19, 2009

แพทย์เผยกิน "ปลาทู 2 ตัว" ชะลอ "ความแก่" ปลอดโรครุมเร้า เรื่องเร่งด่วนที่ไม่ควรมองข้าม

แพทย์เชี่ยวชาญอายุรวัฒน์นานาชาติแนะ 3 วิธีง่ายๆ ช่วยคนไทยลดสังขารเสื่อมก่อนวัย            

 อย่านอนดึก เลี่ยงแป้งน้ำตาลคุมน้ำหนัก กินผักใบเขียววันละ 5 กำมือ ปลาทู 2 ตัว มีสารช่วยต้าน   

 อนุมูลอิสระ                                                                  

 ซิตอัพวันละ 30 ครั้ง ฝึกหายใจลึกช่วยสติดีขึ้นชะลอแก่เร็ว                                 

 กรณีนายสำอาง สืบสมาน หัวหน้าโครงการวิจัยสุขภาพ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.)    

 เปิดเผยผลงานวิจัยคนไทยประสบปัญหาภาวะเสื่อมสังขารก่อนวัยอันควร สาเหตุจากโรคอ้วน ความดัน 

 โลหิตสูง                                                                     

 เบาหวาน การถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจเพิ่มขึ้น รวมทั้งพฤติกรรมในการบริโภคที่เสี่ยง          

 ขณะที่ชายไทยฮิตเป็นโรคความดันโลหิตและโรคตับ                                      

 ส่วนหญิงเป็นโรคคอพอกและหืดหอบนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นพ.กฤษดา ศิรามพุช           

 ผ ู้ อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ (International Anti-Aging          

 Institute: IAAI) กล่าวว่า                                                   

 การเข้าสู่ภาวะเสื่อมสังขารก่อนวัยอันควรกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะนำไปสู่  

 สังคมผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น                                                           

 มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า ส่งผลต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ                               

                                                                           

 "สาเหตุของภาวะเสื่อมสังขาร แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัย คือ                                

 1.ปัจจัยภายในที่เกิดจาก การสะสมของความเครียด ยิ่งขณะนี้ปัญหาการเมืองรุมเร้าทั้งภายในและภาย

 นอกประเทศ                                                                 

 ยิ่งทำให้คนไทยมีภาวะเครียดสูงขึ้น การก้าวสู่ภาวะแก่ก่อนวัยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก นอกจากนี้ ปัญหา   

 ความเครียด                                                                  

 จะพบมากในคนเมืองหลวง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพราะเป็นเมืองที่มีแต่การแข่งขัน  

 มลภาวะสูง และ                                                              

                                                                           

 2.ปัจจัยภายนอก สภาพแวดล้อม                                                   

 มลภาวะเป็นพิษต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภค ที่ส่วนใหญ่นิยมบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะ  

 อาหารจำพวกแป้ง                                                             

 น้ำตาล กาแฟ จะมีสารที่ทำให้แก่สูงหรือที่เรียกว่า สารอนุมูลอิสระ                          

                                                                           

 "พฤติกรรมการนอนหลับยังทำให้คนไทยแก่เร็วด้วย เนื่องจากคนส่วนใหญ่นิยมนอนช่วงเวลาเที่ยงคืน   

 เป็นต้นไป                                                                   

 ทั้งๆ ที่ เวลาที่ควรนอนหลับพักผ่อนมากที่สุด คือ ช่วง 4 ทุ่ม และตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า เพราะเป็น 

 ช่วงที่ธาตุหนุ่มสาวหรือ                                                           

 โกรท ฮอร์โมน (growth hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโตจะหลั่งออกมามากที่สุด

 ในช่วงเวลาดังกล่าว                                                           

 แต่หากเรานอนหลับหลังจากนั้นก็จะลดการหลั่งของธาตุหนุ่มสาว สังเกตได้ว่าคนกรุงจะแก่เร็วมากขึ้น  

 เพราะส่วนใหญ่จะนอนดึกๆ กัน                                                    

 แต่หากลองมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนเสียใหม่ แค่เพียง 1 สัปดาห์ ก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นทันที"   

                                                                            

 นพ.กฤษดากล่าวว่า สำหรับวิธีชะลอความเสื่อมของสังขารนั้นไม่ยาก ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของตัว  

 เอง โดยใช้วิธีง่ายๆ                                                           

 ที่เรียกว่า 3 H ประกอบด้วย                                                      

                                                                           

 1.Healthy Weight รู้จักควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้อ้วน โดยการเลี่ยงแป้งและน้ำตาล              

 โดยเฉพาะในอาหารจำพวกขนมปัง เค้ก เบเกอรี่ ส่วนน้ำตาล หลายคนหันมาบริโภคสารให้ความหวาน

 แทน                                                                       

 ซึ่งสารเหล่านี้ข้อควรระวังคือ ไม่ควรนำมาประกอบอาหาร หรือถูกความร้อนสูงๆ เพราะมีงานวิจัย   

 หลายชิ้นทั้งใน                                                                 

 และต่างประเทศระบุว่า เมื่อสารให้ความหวาน ประเภทน้ำตาลเทียมได้รับความร้อนสูงๆ อาจมีความ 

 สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งได้                                                      

 ดังนั้น การจะบริโภคน้ำตาลเทียมควรเลือกสารให้ความหวานที่ผลิตจากธรรมชาติ อาทิ ชะเอมเทศ   

 หรือหญ้าหวาน เป็นต้น                                                          

                                                                           

 "2.Healthy diet and Lifestyle บริโภคผักใบเขียวโดยควรบริโภคประมาณวันละ 5 กำมือ   

 และปลาทูอีก 2 ตัว                                                            

 อาหารเหล่านี้จะมีสารอาหารที่ช่วยต้านพวกสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ หรืออนุมูลอิสระได้ และควรทำควบคู่ 

 ไปกับการออกกำลังกาย และ                                                     

                                                                           

 3.Healthy Mind คือต้องมีกำลังใจที่ดี มีจิตและสมาธิอยู่กับปัจจุบัน โดยให้ฝึกหายใจเข้าลึกๆ ให้ท้อง

 ป่อง                                                                        

 และกลั้นหายใจสัก 4 วินาที จากนั้นค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกจะช่วยให้มีสติดีขึ้น"                

                                                                           

 นพ.กฤษดากล่าวว่า ที่สำคัญควรรู้จัก ฝึกการใช้สมอง 2 ซีกอย่างสม่ำเสมอ เพราะการที่ใช้สมองเพียง

 ซีกเดียวจะทำให้เกิดความเสื่อมตามมา หากเราถนัดมือขวาก็แสดงว่า สมองซีกซ้ายเราเด่น เราต้อง 

 ทำให้สมองซีกขวาเด่นด้วย โดยการฝึกใช้มือซ้าย หรือให้ฝึกการใช้สัมผัสอื่นๆ ที่เราไม่ถนัด นอกจากนี้ 

 การที่เรารู้สึกหิวนิดๆ ก็จะทำให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมามากด้วย เพราะเมื่อร่างกายเริ่มหิวจะสั่งไปที่

 สมองให้หลั่งสารให้สมองรู้สึกโล่ง จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น การที่รู้สึกดีก็จะทำให้จิตใจดีช่วยชะลอความแก่

 ไปในตัว                                                                     

                                                                           

 "ที่สำคัญการออกกำลังกายจะช่วยได้มากในเรื่องนี้ ยิ่งการซิตอัพจะทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนขึ้น 

 เพราะจะทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ดังนั้น ในแต่ละวันควรซิตอัพอย่างน้อย 30 ครั้ง" นพ.กฤษดา 

 กล่าว และว่า ปัจจุบันคนทำงานนิยมดื่มกาแฟกันมาก ทั้งๆ ที่กาแฟเป็นตัวทำลายความอ่อนเยาว์ แต่จะ 

 ให้เลิกกาแฟคงยาก ดังนั้น ไม่ควรทานกาแฟเกินวันละ 1 แก้ว หรือควรทานกาแฟเพียงวันละ 2 ช้อน 

 ชาก็เพียงพอ ที่สำคัญอย่าลืมว่า กาแฟยิ่งร้อนเท่าไหร่ก็จะยิ่งเพิ่มความเข้มข้นให้กับคาเฟอีนซึ่งเป็นตัวอ 

 นุมูลอิสระที่สำคัญ                                                              

                                                                           

                                                                            

                                                                           

                                                                           

                                                                            

                                                                           

                                                                           

                                                                            

 

Tuesday, September 29, 2009

คาถาขจัดความเครียด

คาถาขจัดความเครียด

คำว่าเครียด (Stress) มาจากศัพท์ทางวิศวกรรมศาสตร์ หมายถึงการเปลี่ยนแปลงหรือผิดรูปของตัววัตถุที่เกิดขึ้นจากแรงกระทำดังกล่าว เกินขีดความสามารถที่ทนได้ ก็จะทำให้วัตถุนั้นถึงจุดแตกหัก ซึ่งนำมาใช้กับภาวะทางจิตใจในความหมายคล้ายกัน แต่ละคนมีขีดจำกัดในการรับสภาพความกดดันในชีวิตที่แตกต่างกัน และถ้าหากถึงจุดที่เกินทน ก็จะนำความเสียหายมาสู่ตัวผู้เป็นเจ้าของได้ เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะต้องเผชิญกับความเครียดในลักษณะใดบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม หากมีภาวะเครียดเกิดขึ้น ก็อย่าเก็บมันไว้กับตัวให้เป็นอันตรายกับสุขภาพกายสุขภาพใจของเราเลยค่ะ มาร่ายคาถาวิเศษกำจัดเจ้าสิ่งนี้ให้มลายสูญหายไปดีกว่า                

คาถา บทที่ 1 สร้างอารมณ์ขันให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แม้โลกนี้จะเศร้าหมองสักแค่ไหน เสียงหัวเราะยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ เพราะช่วยให้คุณหายเครียดได้อย่างทันทีทันใด หากวันใดที่คุณรู้สึกหม่นหมอง ลองหาเรื่องขำขันมาเล่าให้เพื่อนฝูงฟัง หรือหามุขตลกน่ารัก ๆมาล้อกันเล่น ถ้านึกไม่ออก อาจจะลองคลิกเข้าไปหาในฟรีอินเตอร์เนตเพื่อความบันเทิงก็ไม่ผิดกติกาแต่ อย่างไร
                 คาถาบทที่ 2 เรียน รู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วความวิตกกังวลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมักเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการกระทำที่ผ่านมา หรือเรื่องของเหตุการณ์ในอนาคต การรับรู้และปรับภาวะจิตใจให้อยู่เพียงปัจจุบันเท่านั้น จะเป็นวิธีการที่ลดความเครียดอย่างได้ผล
                   คาถาบทที่ 3 ขยันออกกำลังกาย (บท นี้ต้องท่องบ่อย ๆยิ่งได้ผลดี) เพราะทุกครั้งที่คุณออกกำลังกายด้วยความเต็มอกเต็มใจ กระตือรือร้น ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่าเอนดอร์ฟินซึ่งจะทำให้เรารู้สึกอิ่มเอิบ ตัวเบาสบาย และผ่อนคลายกับเรื่องร้าย ๆที่ต้องเผชิญ
                   คาถา บทที่ 4 กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าความเครียดที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ลองมุ่งมั่นเผชิญหน้ามันอย่างกล้าหาญ และเรียนรู้ที่จะแก้ไขมาจากสาเหตุที่แก้จริง การบ่ายเบี่ยงหลบหนีปัญหา มีแต่จะเพิ่มความกังวลขึ้นอีกหลายเท่าทวีคูณ                   

คาถาบทที่ 5 หา สัตว์เลี้ยงหรือตุ๊กตาตัวโปรดเป็นเพื่อนคู่ใจ การลูบไล้ สัมผัส หรือกอดรัดสัตว์เลี้ยงตัวโปรดหรือตุ๊กตานุ่มนิ่มที่เรารู้สึกผูกพัน จะทำให้รู้สึกอบอุ่นและอารมณ์เย็นขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกว่าได้แบ่งเบาความตึงเครียดกังวลออกไปอีกด้วย
                    คาถา บทที่ 6 มองหาแง่มุมดี ๆ ของโลกเอาไว้ชื่นชม แสงสีทองของท้องฟ้ายามเช้ายังเป็นกำลังใจที่ดีเสมอสำหรับทุกคน ลองตื่นมาดูสิ หรือมองหาคุณจราจรใจดีที่จูงเด็ก ๆ ข้ามถนนที่หน้าโรงเรียนที่ไหนสักแห่ง แม้แต่การจดบันทึกน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณได้รบจากคนรอบข้าง เป็นสิ่งที่จะให้คุณรู้ว่า “Life is beautiful”
คาถา บทสุดท้าย ระบายความรู้สึกคนอื่นฟัง การพูดคุย เล่าปัญหาความคับข้องใจให้เพื่อสนิท ญาติพี่น้อง หรือใครสักคนที่คุณไว้ใจเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งในภาวะที่เราวิตกกังวล เพียงแค่การได้ระบายสิ่งที่รู้สึกออกมา ในทางจิตวิทยาจัดว่าเป็นการบำบัดความเครียดได้อย่างดี ช่วยคลายความกดดัน อัดอั้นในหัวใจ และบางทีผู้รับฟังเหล่านี้อาจจะมีมุมมองหรือวิธีดี ๆ แก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างคาดไม่ถึงเชียวละค่ะ

Thursday, September 17, 2009

หลวงพ่อปัญญา อ่านไม่ถึง 3 นาที แต่อาจมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นอีกทั้งชีวิต

 

                                                โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ                                        

                                           ของฟรีไม่เคยมี  ของดีไม่เคยถูก                                         

                                              อยู่ให้ไว้ใจ  ไปให้คิดถึง                                            

                                        คนเราต้องเดินหน้า  เวลายังเดินหน้าเลย                                     

                                   ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ  ขอให้จับหนูได้ก็พอ                                  

                                        ยิ่งมีใจศรัทธา  ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น                                     

                                        ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า }แน่นอน~                                       

                                            คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน                                          

                              ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย  อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา  พักได้ แต่อย่าหยุด                            

                                     เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง                                  

                                 ถ้าไม่ลองก้าว  จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า  ข้างหน้าเป็นอย่างไร                               

                                 หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้  ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ                              

                                           ปัญหาทุกอย่าง  อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น                                         

                                  จะเห็นค่าของความอบอุ่น  เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว                               

                                             อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง                                          

                                                                                                             

                                                                                                            

                                           เริ่มต้นดีแล้ว  ลงท้ายก็ต้องดีด้วย                                          

                                        อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่                                     

                                              จงใช้สติ  อย่าใช้อารมณ์                                             

                                      เบื้องหลังความเข้มแข็ง  สมควรมีความอ่อนโยน                                   

                                  ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก  มีแต่คำว่า ตั้งใจ                               

                                       ยินดีกับสิ่งที่ได้มา  และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป                                     

                                                                                                            

                                          หลังพายุผ่านไป  ฟ้าย่อมสดใสเสมอ                                        

                                       หลังผ่านปัญหา  จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว                                     

                                        ไม่เป็นขุนนางนะ ได้  แต่ไม่เป็นคนไม่ได้                                      

                                          มีแต่วันนี้ที่มีค่า  ไม่มีวันหน้า  วันหลัง                                       

                                        เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป                                      

                                        อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก                                     

                                         เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน                                      

                                                                                                            

                                                                                                             

                                                                                                            

                                             เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้                                          

                                          เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้                                        

                                      เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ                                   

                                        เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน                                     

                                       เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ                                    

                                       เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป                                    

                                                                                                            

                                                                                                             

                                      เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา                                   

                                                                                                             

                                                                                                            

                                                                                                            

                                                                                           

                                       เพื่อนทั่วไปอ่านแล้วทิ้ง เพื่อนแท้จะส่งต่อๆ ไป                                    

                                             ส่งผ่านให้ใครก็ได้ที่คุณห่วงใย                                          

                                      หากคุณได้รับคือ หมายถึง คุณได้พบเพื่อนแท้แล้ว                                    

                                             

จงเป็นบุคคลที่ไม่ประมาท ในกาลเวลา

Tuesday, September 15, 2009

ไบเทค พ่อรวยสอนลูก

ไบเทค พ่อรวยสอนลูก

โดย : วรนุช เจียมรจนานนท์

เทคนิคการผ่องถ่ายงานของ "ดร.ประสาน ภิรัช บุรี" สู่ ทายาทพันล้าน "ปนิษฐา บุรี"

ภาพประกอบข่าว

เทคนิคการผ่องถ่ายงานของ ดร.ประสาน ภิรัช บุรีไม่ต่างอะไรกับกีฬายกน้ำหนัก ให้ค่อยๆ เพิ่มลูกเหล็กเข้าไป เพื่อทั้งคนรับและคน ยังยิ้มได้

“...เห็นหลายตระกูลส่งมอบธุรกิจให้รุ่นลูกแบบปุบปับ ตอนที่ตัวเองแก่ตัวลง โดยเฉพาะกับลูกสาว แล้วมีแรงกดดันสูง เป็นเพราะความเชื่อของคนส่วนใหญ่ว่า ลูกสาวมักจะอ่อนแอกว่าลูกชาย แต่สุดท้ายพอรับไม่ได้ก็ต้องล้มไม่เป็นท่า

คือมุมมองของ ดร.ประสาน ภิรัช บุรี เจ้าของธุรกิจ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม "ไบเทค"

หลายรายจึงเลือกที่จะถ่ายทอดแนวคิดกันตั้งแต่หัววัน เพื่อไม่ให้ทุกอย่างสายเกินการณ์ แต่สำหรับเขาแล้วการบ่มเพาะทายาทเพื่อรับช่วงต่อในอนาคต เขาเลือกที่จะทำก่อนไก่โห่ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า ระหว่างเขากับลูก มีหลายแนวคิดที่เหมือนกันราวกับแกะ

ด้วยความที่เรียนจบสถาปนิก ดร.ประสานจึงเป็นนักคิด นักวางแผน และนักออกแบบตัวยงอีกคนหนึ่ง ที่มองว่าการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ต้องไม่ต้องตอบโจทย์เดียวในแง่ของความมั่งคั่ง แต่ต้องตอบโจทย์ความมั่นคงในฐานะกิจการครอบครัวควบคู่กันไป

ดังนั้นสิ่งที่เขาคิด เขาทำ จึงมีเจ้าตัวเล็ก ปนิษฐา บุรีอยู่ในร่มเงาความคิดอ่านเสมอ

ผมทำอะไรมักจะใกล้ชิดกับครอบครัว ปนิษฐาหรือมุก เขาจะเห็นผมตั้งแต่วันแรกที่คิดจะทำโครงการ ลูกไม่เคยมาจ๊ะเอ๋เพิ่งรู้ว่าพ่อทำอะไร เขาจะรู้มาก่อนแล้ว ทุกอย่างผมจะคุยให้ลูกฟัง ตั้งแต่สมัยที่ก่อสร้างไบเทค รอบข้างยังเป็นท้องไร่ท้องนา

ดร.ประสานเป็นคนรักครอบครัวมาก จนกลายเป็นปรัชญาชีวิตที่นำไปสู่ปรัชญาการทำธุรกิจ สำหรับเขาแล้วการทำเงินไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะรากฐานความพึงพอใจไม่จำเป็นต้องมาจากเงิน

กลยุทธ์การทำธุรกิจ จริงๆ แล้วคือการบริหารชีวิต ไม่ใช่ธุรกิจ คุณทำธุรกิจมีเงินทองมากมาย แต่ชีวิตส่วนตัวไม่มี ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม

เขาเน้นปรัชญาการทำงานแบบพอเพียง สมเหตุสมผล และสมแก่ฐานะ พร้อมกับมองว่า ถ้าเราถือปรัชญาอย่างไร เราบริหารชีวิตอย่างไร เราก็บริหารองค์กรอย่างนั้น เพราะองค์กรคือเรา และเราก็คือองค์กร สองอย่างนี้ต้องเหมือนกัน

วิธีการสอนลูกของเขาเน้นความใกล้ชิดแบบพ่อกับลูก ตั้งอยู่บนความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชกับผู้ถูกฝึก และวินัยการทำงานแบบเจ้านายกับผู้ใต้บังคับบัญชา

ไบเทคบริหารโดยคนไทย แต่ไม่ใช่ครอบครัว ลูกบอกอยากตื่นสายขอมาทำงานช้าไม่ได้ เราเน้นการทำงานแบบมาตรฐานสากล ถึงผมเป็นคนง่ายๆ แต่ก็เอาเรื่อง เป็นคนมีเหตุมีผล

คำแนะนำง่ายๆ สำหรับธุรกิจครอบครัวที่ต้องการให้ทายาทเข้ามารับช่วงต่อ ดร.ประสานบอกว่า วิชาที่ถือเป็นความจำเป็นในการทำธุรกิจ คือต้องไปเรียนเอ็มบีเอ การเงิน บัญชี ทรัพยากรบุคคล ตลอดจนวิชาการบริหารธุรกิจ เพื่อมุ่งเน้นสู่ความสำเร็จ นั่นก็คือ หลักสูตรภาวะผู้ประกอบการ

ถือเป็นหลักสูตรพื้นฐานของเถ้าแก่มืออาชีพ ที่จะบอกได้ว่า ใครคิดได้ คิดไม่ได้ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

การทำธุรกิจขึ้นอยู่กับทำเล ทำเล และก็ทำเล แต่เรื่องที่ต้องรู้ต่อไปอีกก็คือ การทำธุรกิจในไทยขึ้นอยู่กับสายสัมพันธ์หรือ คอนเนกชั่น คอนเนกชั่น และคอนเนกชั่น ถ้าเราไม่รู้จักคน ก็ทำธุรกิจให้สำเร็จไม่ได้ เรื่องพวกนี้ผมเข้าใจดี ถึงต้องพาลูกติดสอยห้อยตามไปประชุม ไปเข้าสังคมในทุกที่ตั้งแต่เด็ก

เขาเป็นคนเลี้ยงลูกแบบขาลุย โดยเฉพาะกับลูกผู้หญิง จนมีคำเปรียบเปรยเล่นๆ ว่า สำหรับบางบ้านลูกสาวอาจจะเหมือนรถเบนซ์ หรือไม่ก็บีเอ็มดับบลิว แต่สำหรับปนิษฐาแล้ว เธอเหมือนกับรถกะบะโฟว์วิลล์ที่พร้อมตะลุยไปได้ทุกที่

ตอนเขาเกิดผมรักเขามาก สำหรับเขาแล้วอะไรก็ได้ ไปไหนก็ได้ ไม่เคยสร้างปัญหาเลย ไปเข้าป่าก็ไป การสั่งสมแง่มุมความรู้ทั้งที่เป็นชีวิตและธุรกิจ ค่อยๆ สอนกันมาแต่เล็กแต่น้อย หล่อหลอมกันมา

จนถึงวันนี้เขาประเมินแล้วว่า แนวคิดของบุตรสาวเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลตัวเขา มีเพียงความแตกต่างซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว ที่จับคู่กันแล้วลงล็อกพอดี อย่างเช่น ปนิษฐาชอบไปงานเลี้ยง ชอบเข้าสังคม ส่วนตัวเขาชอบกินข้าวบ้าน และเบื่อหน่ายการพบเจอผู้คน

ถ้าเรารักใคร ห่วงใยใคร เราก็อยากให้เขาไปได้ดี แนวความคิดมุกไม่ไกลจากผมมากนัก ขาดแต่ประสบการณ์อย่างเดียว สิ่งน่าเป็นห่วงคือ ความรู้ทางเศรษฐกิจ บางทีเราประเมินไปอย่างหนึ่ง แล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง ในฐานะพ่อและผู้บริหารเราต้องดูแลและค่อยๆ ชี้นำอย่างใกล้ชิด

ถึงจะรักและห่วงใยบุตรสาวดั่งไข่ในหิน แต่ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ เขาจะปฏิบัติกับบุตรีคนนี้เหมือนกับเป็นพนักงานคนหนึ่ง มากกว่าเป็นทายาทมรดกพันล้าน

ด้วยเหตุผลที่ชวนรับฟังว่า คนเราทุกคนเมื่อเกิดมามีอาการครบ 32 ประการ มีโอกาสได้เรียนหนังสือมากกว่าคนอื่น มีฐานะที่ดี ถือว่าโชคดีกว่าใครหลายคนที่ยากจน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ควรทำคือ การพิสูจน์ตัวเองว่ามีความสามารถที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้ และแข่งขันกับตัวเองเพื่อก้าวไปสู่จุดที่ดีกว่า ถึงบั้นปลายชีวิตก็ตอบแทนคืนกลับไปยังสังคม ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปอีก สิ่งเหล่านี้จะสัมฤทธิ์ได้ ต้องมาจากพื้นฐานการมีวินัยในการบริหารเวลาและบริหารชีวิต

ระหว่างนี้เขายังพยายามถ่ายเทงานให้กับปนิษฐาอย่างต่อเนื่อง โดยมอบตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายให้ดูแล ส่วนตัวเขาเองใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการทำไร่ ทำสวนผลไม้ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

ใจผมอยู่ที่ไร่เขาใหญ่ ลงสวนผลไม้หลายอย่าง เช่น แก้วมังกรและมะละกอ ทำทุกอย่างที่สนุก ผมชอบตั้งแต่เด็กๆ กลายเป็นว่าไบเทคเป็นงานอดิเรก ส่วนไร่เขาใหญ่กลายเป็นงานประจำ

ดร.ประสานเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเจ้าของธุรกิจพันล้านเพียงไม่กี่คน ที่ไม่อยากนั่งทับธุรกิจจนตัวเองหมดสภาพ และเมื่อถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว เขาก็พอใจให้มือเปื้อนดิน มากกว่าเลอะหมึกพิมพ์จากแบงก์...

Tags : ไบเทค

ความคิดเห็น