Pineapple TH-PH

Done

Monday, August 16, 2010

Fw: :: good morning :: Mother's Day Special


 
 
 
God cannot reach everywhere...So he created Mothers on the Earth!!!

MOTHER IS GOD'S Best GIFT

ATT33831.jpg
ATT33825.jpg
ATT33823.jpg
ATT33824.jpg
ATT33828.jpg
.....Nothing in this world is better than a Mother...





ATT33826.jpg


ATT33830.jpg

ATT33822.jpg

ATT33827.jpg



ATT33829.jpg

 

 

 


--

 



Monday, August 2, 2010

ปราชญ์สอนว่า.....

ปราชญ์สอนว่า.....

  • เมื่อยากจนก็ยังชื่นชมในคุณธรรม เมื่อมั่งมี ก็ยังชื่นชมในมารยาทจริยธรรม

  • ไม่ต้องเป็นหว่งคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นหว่างว่าเรา ไม่เข้าใจคนอื่น

  • การศึกษา ค้นคว้า ถ้าเอนเอียงไปสุดสายไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่ง ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้น

  • การที่ยอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็คือความที่รู้แล้ว

  • บัณฑิตคิดถึงว่า ทำอย่างไรจะเพิ่มพูนคุณธรรมของตนได้ คนพาลคิดถึงว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นความเป็นอยู่ของตนสะดวกสบายขึ้น โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

  • บัณฑิตรู้เฉพาะเรื่อง ที่ชอบด้วยคุณธรรม คนพาลรู้เฉพาะเรื่องที่ได้ผลกำไร โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม

  • ความผิดอันเนื่องมาจากการประหยัดนั้น มีน้อยเหลือเกิน

  • ผู้ที่คุณธรรมย่อมไม่ถูกทอดทิ้งโดยโดดเดี่ยว และจะต้องมีเพื่อนบ้านมาคบหา

  • บัณฑิตมีความอ่อนน้อมถ่อมตน รับใช้ราษฎรด้วยสติปัญญา มีความเอื้ออาทร ใช้ราษฎรโดยชอบด้วยเหตุผล

  • ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย

  • จงเป็นนักศึกษาในแบบบัณฑิต อย่าเป็นนักศึกษาในแบบคนพาล

  • ตั้งใจมุ่งมั่นอยู่กับคุณธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมไม่ละทิ้งความเมตตาธรรม ท่องเที่ยวไปในศิลปะวิชาการ

  • สุรุ่ยสุร่ายเกินไปก็จะอวดหยิ่ง ประหยัดเกินไปก็จะเป็นคนคับแคบ แต่เป็นคนอวดหยิ่งสู้เป็นคนคับแคบดีกว่า

  • บัณฑิตย่อมมีจิตใจกว้างขวางราบรื่น คนพาลย่อมมีความกลัดกลุ้มอึดอัดตลอดเวลา

  • อ่อนน้อมแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นเรื่องเหนื่อยเปล่า ระมัดระวังแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นความขลาดกลัว

  • กล้าหาญแต่ไม่มีจริยธรรม จะกลายเป็นก่อการร้าย ซื่อตรงแต่ไม่มีจริยธรรม จะเป็นภัยแก่คนอื่น

  • ยังปรนนิบัตติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไรเล่า

  • บัณฑิตมีความสามัคคีต่อกัน แต่ความคิดกับการกระทำไม่เหมือนกัน คนพาลมีความคิดกับการกระทำเหมือนกัน แต่ไม่มีความสามัคคี

  • ปรนนิบัติบัณฑิตเป็นเรื่องง่าย แต่ทำให้บัณฑิตรักเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะว่าถ้าไม่ชอบด้วยลักษณะธรรมบัณฑิตก็ไม่รัก

  • ต่างตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน อยู่กันด้วยความสามัคคี เรียกว่าเป็นนักศึกษาได้

  • ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้อง ตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน

  • เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ

  • บัณฑิตย่อมมีความอับอายที่พูดไปแล้วนั้น เกินกว่าที่ทำไป

  • ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย

  • ผู้ที่ไม่มีการไตร่ตรองให้ยาว ในอนาคตไกลจะต้องมีภัยที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน

  • ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น

  • รวมอยู่กันเป็นหมู่ ตลอดวันไม่เคยพูดถึงธรรมที่ชอบ ทำตนเป็นคนฉลาดในเรื่องเล็กๆน้อย ต่อไปเห็นจะลำบาก

  • บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น

  • บัณฑิตทีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยไม่แย่งชิงความภาคภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน

  • พูดไพเระาตลบแตลงทำให้สูญเสียคุณธรรม เรื่องเล็กไม่อดกลั้นไว้จะทำให้แผนเรื่องใหญ่เสีย

  • ทุกคนเกลียดก็ต้องพิจารณา ทุกคนรักก็ต้องพิจารณา

  • เพื่อนที่ซื่อตรง เพื่อนที่มีความชอบธรรม เพื่อนที่มีความรู้ ทั้ง 3 ประเภทนี้มีประโยชน์แก่เรา

  • เพื่อนที่ประจบสอพลอ เพื่อนที่ทำอ่อนน้อมเอาใจ เพื่อนที่ชอบเถียงโดยไม่มีความรู้ ทั้ง 3 ประการนี้เป็ยภัยแก่เรา

  • บัณฑิตมีความกลัวอยู่ 3 ประการ กลัวประกาศิตของสวรรค์ กลัวผู้มีอำนาจ กลัวคำพูดของอริยบุคคล

  • นิสัยคนมีความเหมือนกัน แต่การศึกษาทำให้แตกต่างกัน

  • เฉพาะคนที่มีปัญญาสูง กับคนที่โง่มากเท่านั้น ที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเขาได้

  • รักความเมตตาแต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ถูกหลอกลวงง่าย รักความรู้แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ความรู้นั้นกระจัดกระจายไม่มีฐานที่ตั้ง

  • รักความซื่อสัตย์ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นภัยแก่ตนโดยง่าย รักพูดตรงความจริง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่การพูดจะเป็นการทำร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย

  • รักความกล้าหาญ แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่ก่อความไม่สงบได้ง่าย รักความเข้มแข็ง แต่ไม่มีการศึกษา เสียอยู่ที่เป็นคนมุทะลุได้ง่าย

  • อ่านหนังสือโดยไม่ค้นคิด การอ่านจะไม่ได้อะไร ค้นคิดโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การค้นคิดจะเปล่าประโยชน์

  • ทบทวนเรื่องเก่าและรู้เรื่องใหม่ขึ้นมาอีก ก็จะเป็นครูได้

  • นักศึกษาสมัยก่อน ศึกษาเพื่อให้ตนมีความสำเร็จในการศึกษา นักศึกษาในปัจจุบัน ศึกษาเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าตนเองมีการศึกษา

  • ชอบเอาสองคนมาเทียบว่าใครดีกว่าใคร เธอเองเก่งพอแล้วหรือ สำหรับเราไม่มีเวลาว่างมาทำเช่นนั้น

  • แสร้งพูดไพเราะ แสดงความน่ารัก เพื่อให้ถูกใจคน คนประเภทนี้น้อยนักที่จะเป็นคนมีเมตตาธรรม

  • ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น จึงจะสามารถรักคนด้วยความจริงใจ และจึงสามารถเกลียดคนด้วยความจริงใจ

  • ผู้มีปัญญาชื่นชมน้ำ เป็นผู้ขยัน ผู้มีความสุข ผู้มีเมตตา ชื่นชมภูเขา เป็นผู้รักสงบ เป็นผู้มีอายุยืน

  • ผู้ที่มีเมตตาธรรมเท่านั้น เวลาพูด เขาพูดอย่างเชื่องช้า ไม่พูดเชื่องช้าได้หรือ เพราะเมื่อพูดไปแล้ว ต้องทำตามที่พูดด้วยความลำบาก

  • ผู้ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ พูดช้าก็ใกล้กับความมีเมตตาธรรมแล้ว

  • ผู้มีคุณธรรมต้องมีคำพูดที่ดี แต่ผู้มีคำพูดที่ดี ไม่ต้องใช่เป็นคนที่มีคุณธรรมเสมอไป

  • ผู้มีเมตตาธรรมต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ แต่ผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ต้องเป็นคนที่มีเมตตาธรรมเสมอไป

  • เลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีชีวิตอยู่ได้เท่านั้นนะหรือ ถ้าเช่นนั้น หมากับม้าก็ได้รับการเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่เช่นกัน

  • บัณฑิตให้ความเมตตากรุณาแก่ผู้อื่น ใช้คนทำงานแต่คนไม่โกรธแค้น ความต้องการของเขาไม่เป็นความโลภ มีความสงบแต่ไม่มีความเย่อหยิ่ง มีความสง่าแต่ไม่มีความโหดเหี้ยม

http://www.baanjomyut.com/10000sword/kongjao1.html

คมคำ

ไม่กล้า ก็ไม่มีวันเดินหน้า
Nothing ventured, nothing gained.
วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์

เพียงเมื่อท่านหยุดก้าว ท่านก็เริ่มถอยหลังแล้ว
When you stop advancing, you''''ve already begun to retreat.
ดร.เทียม โชควัฒนา

คนเราไม่มีใครล้มเหลว มีแต่ล้มเลิกต่างหาก
There are no failures, only people who have given up.
นิรนาม

ผมยอมไม่ได้ ถ้าไม่ยอมพยายาม
I can''''t accept not trying.
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ผมเป็นคนเดินช้า แต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง
I am a slow walker, but I never walk backwards.
อับราฮัม ลินคอล์น

โลกทั้งโลกเปิดทางให้กับคนที่รู้ว่าตัวเองจะเดินไปทางไหน
The whole world steps aside for the man who knows where he is going.
นิรนาม

หนทางไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรก
A joumey of a thousand miles must begin with a single step.
เล่าจื๊อ

อย่ากลัวที่จะก้าวไปช้า ๆ จงกลัวที่จะอยู่นิ่งเฉย
Do not be afraid of going slowly, be afraid only of standing still.
ภาษิตจีน

ถ้าไม่หาทาง ก็ต้องสร้างมันขึ้นมา
We will either find a way or make one.
ฮานิบาล

อย่าคิดว่าคุณจะเดิน เดินไปเลย
Don''''t just think you''''ll wall, WALK.
ปรเมศวร์ มินศิริ

คนเราแก้อดีตไม่ได้ แต่อาจเปลี่ยนอนาคตได้
We can''''t correct the past, But we might change the future.
วรินทร์ เลียววาริณ

การเริ่มต้นเป็นเรื่องยาก แต่การก้าวต่อไปเป็นเรื่องยากกว่า
Getting started is hard, but the next step is harder.
ถกลเกียรติ วีรวรรณ

คำว่า ดีที่สุด มีไว้สำหรับงานต่อไปเสมอ
The word ''''Best'''' is always there for the next start.
ดวงฤทธิ์ บุนนาค

อย่ากลัวล้มทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มเดิน
Don''''t think that you''''re gonna lose when you don''''t even start
ณัฐจิระ ฮอนดา

ความผิดพลาดในอดีต คือบทเรียนสำหรับในอตาคต
The falling of yesterday are the learning of tommorrow.
โรเบอร์โต บักจิโอ

แม้แต่ปลา ต้องว่ายทวนน้ำเพื่ออยู่รอด
Fish swim against the tide to survive.
นักปราชญ์

ถ้าไม่ใช่คุณแล้วใคร ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวนี้แล้วเมื่อไหร่
If not you who? If not now when?
แกรี่ เฮอร์เบิร์ท

ทางเดียวที่จะถึงเส้นชัย คือก้าวต่อไปข้างหน้า
The only way to reach the goal is moving forward.
นักกีฬาสมัครเล่น

คว้าทุกโอกาสให้ได้
Seize the day.
โฮเรซ

ผมไปได้ทุกที่ ขอเพียงแต่ต้องไปข้างหน้า
I''''ll go anywhere as long as it''''s forward.
ดร.ลิฟวิ่งสโตน

อย่ากลัวที่จะก้าวยาว ๆ เมื่อต้องข้ามอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่
Don''''t be afraid to take a big step…you can''''t cross a chasm in two small
jumps.
เดวิด ลอยด์ จอร์จ

ความใฝ่ฝัน ไม่เคยหยุดยั้ง
Ambition never comes to an end.
โยชิดะ เคนโกะ

ความเสี่ยงที่สุด คือการไม่กล้าเสี่ยงเลย
The biggest risk is not to take the risk at all
ราอูล กราเซีย บราโว

จับจ้องที่จุดหมาย ไม่ใช่ที่อุปสรรค
One should keep one''''s eyes on one''''s destination, not on where one stumbled.
สุภาษิตไนจีเรีย

ความล้มเหลวที่สุด คือการไม่กล้าแม้แต่จะลองทำ
เซอเรน คีร์เคอกอร์

ถ้าเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีรอยเท้าเป็นของตนเอง
To dare is to lose one''''s footing momentarily. Not to dare is to lose
oneself.
มูลเรลสตรอด

ความสำคัญของ "กระดุมเม็ดแรก"

ความสำคัญของ "กระดุมเม็ดแรก"
 

เคยไหมที่คุณตื่นนอนยามเช้า ครึ่งหลับครึ่งตื่น สวมเสื้อราวกับคนไร้วิญญาณ
เมื่อกลัดกระดุมเสร็จแล้วก็พบว่า ชายเสื้อทั้งสองข้างไม่เท่ากัน คุณกลัดกระดุมผิดทั้งแถว!

มันเริ่มจากการที่คุณไม่รู้ว่า คุณกลัดเม็ดแรกผิด แล้วกลัดต่อไปทีละเม็ดอย่างถูกต้อง
เมื่อกลัดกระดุมเสร็จสิ้น ก็ผิดทั้งหมด

ในตัวอย่างนี้ ความไม่รู้ทำให้คุณ 'กลัดกระดุม' ผิดทั้งแถว!

เคยไหมที่คุณเก็บเนื้อในตู้เย็นนานข้ามปี จนเนื้อหมดอายุ แต่ไม่ยอมทิ้ง
เพราะเป็นเนื้อจากต่างประเทศ ราคาแพง
คุณปรุงอาหารจนเสร็จ เมื่อกินแล้วไม่อร่อยหรืออาหารเป็นพิษ

ในตัวอย่างนี้ ความเสียดายทำให้คุณ 'กลัดกระดุม' ต่อไป ทั้งที่รู้ว่าเม็ดแรกผิดรู!

เคยไหมที่คุณสมัครเรียนสายวิชาที่คุณไม่ชอบ ไม่ว่าเพราะพ่อแม่บังคับ
หรือไม่รู้จะเรียนอะไรนอกเหนือจากสายนั้น คุณสอบได้ ลงทะเบียน
เรียนผ่านไปทีละเทอม ทีละปี จนจบ คุณได้รับปริญญาบัตร
หางานที่เกี่ยวข้องกับสายวิชาที่ร่ำเรียนมา แล้วทำงานไปทีละวันๆ
ทีละเดือนๆ ทีละปีๆ จนวันหนึ่งคุณก็หมดแรง
และยอมรับว่าคุณ 'กลัดกระดุม' ผิดมาตั้งแต่เม็ดแรก

ในตัวอย่างนี้ ความละเลยทำให้คุณดันทุรัง 'กลัดกระดุม' เม็ดต่อไปทั้งที่รู้ดีว่ากลัดเม็ดแรกผิด

กระดุมเม็ดแรกสำคัญอย่างยิ่ง มันเป็นรากฐานของกระดุมเม็ดที่สอง สาม สี่...
กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็ผิดหมดทั้งแถว ผิดทั้งยวง และอาจจะผิดทั้งชีวิต!

ตึกรามบ้านช่องไม่ว่าจะออกแบบสวยงามเพียงไร
หากคำนวณฐานรากไม่ถูกต้อง วันหนึ่งก็เอียงล้ม

เด็กไม่ว่าฉลาดเพียงไร หากเอาแต่เล่นเกม ดูแต่หนังรุนแรง เอาแต่ใจตัวเอง
โตขึ้นก็อาจเป็นปัญหาภาระที่สังคมต้องแบกรับ

ซื้อรองเท้ายี่ห้อดังมาแล้ว ถึงคับก็ทนสวม ไม่นานก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องเท้าเจ็บ

เพื่อนให้ขนมเค้กจากร้านที่มีชื่อเสียง จะให้คนอื่นก็เสียดาย
จึงฝืนกินเข้าไปทั้งที่อ้วนอยู่แล้ว ผลที่ตามมาคือร่างกายเสียหาย

คุณอาจยอมปล่อยบางปัญหาไป หลับตาข้างหนึ่งแล้วหวังว่า ปัญหานั้นจะละลายหายไปเอง
แต่ท้ายที่สุดก็ต้องแก้ปัญหานั้นอยู่ดี ทั้งยังต้องจ่ายราคาค่าแก้ปัญหามากกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็นระดับปัจเจก เช่น การใช้ชีวิต การศึกษา การทำงาน ความรัก
ไปจนถึงระดับมหภาคเช่น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง
ไม่ว่าจะด้วยความไม่รู้ ความปล่อยปละละเลย หรือความเสียดาย หรือเหตุผลใดก็ตาม
หากกลัด 'กระดุม' เม็ดแรกผิด ทุกสิ่งที่ทำถูกต้องหลังจากนั้นจะกลายเป็นผิดไป!

การแก้ปัญหาของการ 'กลัดกระดุมผิดเม็ด' นี้มีทางเดียว
คือ ปลด 'กระดุม' ทั้งหมดออกมาก่อน แล้วกลัดใหม่

การไม่รู้เป็นเรื่องหนึ่ง การรู้แล้วยังทำต่อไปเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หลายคนทำงานตามคำสั่งทั้งที่รู้ว่า 'กระดุมเม็ดแรก'
ไม่ตรงรูกระดุมของมัน กว่าจะรู้ตัว ก็กลายเป็นปัญหาลูกโซ่

หลายๆ ระบบในสังคมเช่น ระบบการเมือง การศึกษา ฯลฯ
ดำเนินมานานปี ทั้งที่เรามองเห็นปัญหา แต่ก็ดำเนินต่อไปทั้งด้วยความไม่รู้
ความเขลา ความปล่อยปละละเลย ด้วยความเชื่ออย่างนกกระจอกเทศว่า
มุดหัวลงดินสักพัก เดี๋ยวปัญหาก็หายไป แต่ปัญหาไม่เคยหายไป
มีแต่สะสมด้วยดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งแก้ไขช้า ราคาแก้ไขยิ่งแพง
บางครั้งการตัดใจเข้าห้องผ่าตัดปฏิรูปตัวเองก็เป็นทางแก้ที่ถูกต้อง

ยอมตัดใจตัดวงจรเดิมนั้นทิ้ง แล้วเริ่มต้นใหม่
เพราะความเสียหายในระยะยาวน้อยกว่า ประหยัดเวลาโดยรวมมากกว่า

ทุกๆ หลายก้าวที่เดินหน้า เราควรหยุดและทบทวนดู 'กระดุม' ของเรา
หรือของสังคมว่า กลัดถูกรูไหม ถ้าไม่ก็อย่ารอช้า ปลด 'กระดุม' ทั้งหมดออกมาก่อน แล้วกลัดใหม่


วินทร์ เลียววาริณ
22 พฤษภาคม 2533


ผู้ทำผิดแล้วไม่แก้ไข กำลังทำผิดอีกครั้งหนึ่ง
ขงจื๊อ