Pineapple TH-PH

Done

Thursday, May 15, 2008

ดีมาก ลองทําดู - 4 อย่า

====================================================================================
ใครที่ไม่ได้ไปนั่งฟังการบรรยายธรรมะโดยท่าน ว.วชิรเมธี   ท่านได้ให้พร 4 ข้อ ดังนี้    
1.
อย่าเป็นนักจับผิด             
   
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง
   "
กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก "
   
คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส " จิตประภัสสร " ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี
   "
แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข "
2.
อย่ามัวแต่คิดริษยา                
   "
แข่งกันดี ไม่ดีสักคน         ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน " '
   
คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
   
คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า " เจ้ากรรมนายเวร "   ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์   ฉะนั้น เราต้อง ถอดถอน
   
ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น " ไฟสุมขอน " ( ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
   
เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี " แผ่เมตตา " หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา
   
แล้วปล่อยให้ลอยไป
3.
อย่าเสียเวลากับความหลัง
   90%
ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ " ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น "
   
มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย 

   
ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ " อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน "
    "
อยู่กับปัจจุบันให้เป็น "   ให้กายอยู่กับจิต   จิตอยู่กับกาย คือมี " สติ " กำกับตลอดเวลา
4.
อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
   "
ตัณหา " ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่ เกินพอดี   เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ   ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ
   
ธรรมชาติของตัณหา คือ " ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม "
   
ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม   เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลา ไม่ใช่มีไว้
   
ใส่เพื่อความโก้หรู   คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่
   
คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์
   
เราต้องถามตัวเองว่า " เิกิดมาทำไม " " คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน "   ตามหา " แก่น
   
ของชีวิตใ

 " คำว่า "พอดีคือถ้า "พอ" แล้วจะ"ดี" รู้จัก"พอ" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข "

No comments: