|
พระอาทิตย์ใกล้นักไหม้ ไกลนักมืด "พระอาทิตย์ใกล้นักไหม้ ไกลนักมืด" พระเจ้าอยู่หัว และพระราชวงศ์ เหมือนพระอาทิตย์ถ้าเราเข้าใกล้นักจะไหม้ ยิ่งใกล้ยิ่งไหม้คือเราเย็นไม่พอ ใครอยู่ใกล้พระเจ้าอยู่หัว ต้องเย็นพอ ความสงบเยือกเย็น ความไม่โลภ การแอบอิงที่ไม่แอบอ้างถึงจะทำให้เราไม่ไหม้ เราได้ยินข่าวเสมอว่าใครที่ใกล้พระเจ้าอยู่หัว ชีวิตที่นำมาแอบอ้างหาผลประโยชน์ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไปไม่รอด
ส่วนไกลนักมืด คือบางทีพระอาทิตย์ส่องมา คือพระจริยวัตร พระราชกรณียกิจ พระบรมราโชวาท เราคนไทยไม่ค่อยสนใจกัน เรามีในหลวงอยู่ในหัวใจ คือเรารักท่าน เราบูชาไว้หัวนอน แต่เรื่องหัวคิดเราไม่ค่อยได้เอามาใช้ ซึ่งความจริงแล้วพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระบรมราโชวาทและพระบรมราโชบายในทุกเรื่องนั้นที่จะออกมาเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทรงทำด้วยพระองค์เองเป็นพระบรมราโชบายซึ่งแม้ขณะนี้ก็ไม่มีใครทำจริงๆ
อาตมาเห็นแต่คนสร้างนโยบายใหม่โดยไม่เดินตามพระบรม ราโชบายพระเจ้าอยู่หัว เห็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นมาแต่ละพรรคที่โฆษณาอยู่ในขณะนี้ก็มีแต่เรื่องการศึกษาซึ่งไม่ได้เน้นอย่างพระเจ้าอยู่หัว จะทำให้เด็กมีปัญญาให้มีการศึกษาเท่าเทียมกัน
แต่เราลืมไปว่าควรทำครูให้มีความสามารถเท่าเทียมกัน เราไม่ทุ่มเทเพื่อให้องค์กรครูมีคุณภาพ แต่ไปทำด้านกายภาพเพราะด้านคุณภาพไม่มีผลประโยชน์ซ้อน การสร้างอาคารสถานที่ต่างๆ มีผลประโยชน์ซ้อน แต่การมาพัฒนาคนนั้นไม่เกิดประโยชน์ในด้านส่วนตัว
เราจึงไม่เห็นพระบรมราโชบายในการช่วยชาติที่เอามาใช้ปฏิบัติกัน เช่น เศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ ไม่ค่อยมีใครทำทั้งๆ ที่เรารักในหลวง เดินเทิดพระเกียรติจะเดินทำไมอาตมาไม่เข้าใจ เคยถามในหลวงหรือเปล่าว่าอยากได้อย่างนั้นหรือเปล่า จนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ ได้ตรัสว่า "ความจริงเรื่องป่าไม้ ข้าพเจ้าก็ขอมาตั้งแต่เป็นพระราชินีใหม่ๆ แต่ก็ยังไม่เคยได้จากรัฐบาลและประชาชน"
จนแก่แล้วพระชนมพรรษา 75 พรรษาแล้ว ปลูกไปเถอะไม่ว่าจะเป็นต้นอะไร นี่คือสิ่งที่เราดูพระเจ้าอยู่หัว ของเราและระบบเศรษฐกิจพอเพียงในเชิงปฏิบัติมีหลายเชิง พอเพียงอย่างแรก คือ
หว่านพืชเช่นใดย่อมได้ผลเช่นนั้น
1) ยอมรับเรื่องบุญทำกรรมแต่ง บางคนไม่ยอมรับเป็นความคิดที่ผิดนำไปสู่การทุจริตและฉ้อฉล ต้องเข้าใจเรื่องบุญทำกรรมแต่งเสียก่อน "กรรมลิขิตชีวิตของตน ยากดีมีจนสุดแต่วิถี กฎแห่งกรรมคือทำดี ได้ดี ทำชั่วก็มีแต่รับผลเลวทราม" ใครทำมาจากชาติที่แล้วจิตเราสั่งสมความดีชั่ว บุคคลหว่านพืชเช่นใดย่อมได้ผลเช่นนั้น ทำกรรมดีก็ต้องได้รับผลดี ทำกรรมชั่วก็ได้รับผลชั่ว
แต่แปลกตรงที่คนทำกรรมชั่วไม่ยอมรับผลกรรมชั่วที่ทำ ต้องตีความให้ถูกต้อง คนทำกรรมชั่วทำอย่างไรให้เขายอมรับผลของการทำกรรมชั่ว ไม่ใช่เอากระบวนการต่างๆ มาแก้กรรมชั่ว (อย่างภิกษุบางรูปที่อ้างว่าตัดกรรมได้อย่างนั้นผิด) ต้องสอนให้คนยอมรับกรรมชั่ว
2) เมื่อทำกรรมดีแล้วได้ดีอะไร ต้องรู้ผลจากกรรมดีด้วย ปลายเหตุบอกต้นสาย เมื่อเราได้รับปลายเหตุที่ดีต้องสาวไปหาต้นสายว่าเหตุที่ดีอันนี้ได้รับจากอะไร ถ้ารู้สิ่งนั้นแล้วก็จะได้ทำกรรมดีต่อๆ กันไป เช่น พ่อแม่รวยมาเพราะ "ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ พัฒนาฝีมือ" นี่เป็นผลมาจากกรรมดี 5 กระบวนการ
ถ้าจะต่อยอดก็ต้อง "ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ พัฒนาฝีมือ" ต่อยอดไป ถ้ากรรมชั่วอย่าทำ นรกเรียกเป็นขุม คุกเรียกเป็นแดน สมัยก่อนเรียก "จับตัวไปที่ขุมขัง" เดี๋ยวนี้เป็น "คุมขัง"
แม้แต่เด็กก็ยังเอาน้ำร้อนไปสาดหน้าเขา บอกว่าพ่อ (ฉัน) ใหญ่ พอเรื่องถึงพ่อ บอกว่าเด็กทะเลาะกันปรับสัก 500 บาทก็จบ มันไม่จบหรอกเพราะเขาเป็นผู้เสียหาย แต่แทนที่จะสอนให้ลูกว่าการระงับดับโทสะ อยู่ในสังคมต้องควบคุมโทสะจริตให้อยู่ และเมื่อผิดต้องขอโทษ ถ้าเขาขอโทษต้องรู้จักให้อภัย แต่ไม่มีอย่างนั้น ยิ่งรู้ว่าพ่อแม่พวกมากใหญ่มากก็ยิ่งลำพองมากก็ยิ่งก่อความรำคาญมากในสังคมจะเป็นแบบนั้น เวลาที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ขอให้ยอมรับผลกรรมที่เราทำ ดูกรรมดีกรรมชั่ว
คนมีอายุยืนเพราะไม่ชอบปลงชีวิตสัตว์ ใครมีอายุยืนไหว้ได้เป็นคนใจไม่ร้ายชาตินี้จึงมีอายุยืนยาว จะจนหรือมีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อายุสั้นแสดงว่าชาติที่แล้วฆ่าสัตว์ใหญ่ไปเยอะๆ รวมทั้งมนุษย์ที่เป็นคนดี มีบุญ มีบารมี ไปฆ่าเขาทำไม มาถึงชาตินี้ยังลืมตามองดูโลกไม่ถึง 24 ชั่วโมงตาย
คนมีอายุยืน ไม่ปลงชีวิตสัตว์
พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้เราไปทำกรรมไว้ดีหรือเลวก็เป็นผู้รับมรดกกรรม "คนมีอายุยืนยงเพราะไม่ปลงชีวิตสัตว์" มาชาตินี้เราไม่รู้ว่าเคยปลงอะไรไว้ ปล่อยปลาปล่อยไปเถอะหน้าคลองหาปลามาปล่อยเข้าเถอะ เล็กนักก็ไม่ได้น้ำแรง ดูด้วยว่าจะปล่อยปลาอะไร เต่าอย่าไปปล่อยเพราะไม่มีตลิ่งตะกายอย่าปล่อยมันไปตาย ปล่อยวัวปล่อยควายเขาไม่เลี้ยงดูเป็นโรคภัยไข้เจ็บตายก็จะกลาย เป็นบาป ทำบุญอย่าชุ่ย
คนร่ำรวยทรัพย์สมบัติเพราะชอบบำเพ็ญทาน ในหลวงรวยแบบที่คนอยากให้แต่ท่านไม่อยากได้ ท่านเคยสังเกตเวลาในหลวงเสด็จ ถ้าเป็นแบ๊งสิบแบ๊งร้อยรับหมดเหมือนเด็ดใบไม้ แต่ถ้าเป็นแสนเป็นล้านต้องนำความกราบบังคมทูลฯ ต้องส่งตำรวจหลวงมาสืบ ต้องดูว่าได้มาจากไหน ได้มาอย่างไร ประสงค์อะไร ต้องการรูปถ่ายหรือไม่ต้องการ ออกโทรทัศน์หรือเปล่า แม้แต่พระก็ยังสืบว่าที่พระคุณเจ้าจะถวายนั้นเพื่ออะไร เอาชื่อท่านไปแอบอ้างเพื่อระดมเงินต้องการออกโทรทัศน์เดี๋ยวนี้ไม่รับ พระเจ้าอยู่หัว อยากให้พระคุณเจ้าช่วยกันเทศน์ให้ประชาชนมีปัญญาเกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
หลักเศรษฐกิจพอเพียง
ในปี 2539 เกิดพระมหาชนกในวาระครองราชย์ 50 ปี ตั้งแต่นั้นมาคำว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" เกิดขึ้น 1) รู้ความจริง 2) ประจักษ์ในสังคมที่พระองค์ทรงดูอยู่ 3) สอนเราว่าเรื่องหน้าตา อย่าเอามาบวกกับการทำหน้าที่ ต้องตีความอย่างนั้น เรียกว่าสอนให้ปิดทองหลังพระ
คนที่ร่ำรวยสมบัติเพราะชอบบำเพ็ญทาน จนเพราะไม่ยอมบำเพ็ญทาน คนมีอายุยืนแต่จนเพราะไม่ฆ่าสัตว์แต่ไม่ค่อยบำเพ็ญทาน คนมียศถาบรรดาศักดิ์เพราะชาติที่แล้วไม่ขี้อิจฉา ยินดี ส่งเสริมผู้อื่น อย่าไปน้อยใจ อย่าไปอิจฉา เกิดมา สวยมาหล่อเพราะชาติที่แล้วไม่ขี้โกรธ ปฏิบัติต่อพ่อแม่ดี ทำบุญมากน้อยให้ดีใจยิ้มแย้มเข้าไว้อย่าหงุดหงิดหน้านิ่วคิ้วขมวดเกิดชาติหน้าจะได้หล่อรวยแล้วหน้าตาไม่ดีก็แย่
ดูอย่างในหลวงใครก็อยากถ่ายรูป บางคนรวยจริงแต่ใครไม่อยากถ่ายรูป คนไม่รวยแต่ดันสวย ก็แสดงว่าเคยทำบุญด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสตัวบุญจะดึง เดี๋ยวเป็นนางงามจักรวาล เดี๋ยวจะรวยขึ้น คนไม่มีโรคภัยเพราะไม่ทรมานสัตว์เกิดมาจะไม่ง่อยเปลี้ยเสียขาหรือไม่มีอุบัติเหตุ ที่เกิดอุบัติเหตุอย่านึกว่าประมาท ถ้าเกิดมาพิการแสดงว่ากรรมตามทัน กรรมจะให้ผลถ้าไม่ตนเองก็ลูกหรืออีกหน่อยเกิดอุบัติเหตุจะตายก็ไม่ตายต้องทนทรมาน
ฉะนั้น ชาตินี้เราไม่รู้ก็ควรหมั่นสร้างบุญไว้ อย่างเช่น บริจาคเงินสร้างโรงพยาบาล ซื้ออุปกรณ์ด้านการแพทย์ คนชื่อเสียงไม่วิบัติเพราะรักษาศีล ในโลกใบนี้กฎหมายก็อีกแบบแต่กระบวนการศีลที่ทำให้ชื่อเสียงวิบัติ อย่างเช่น การผิดศีล ยิ่งได้ สิ่งต่างๆ จากปาณาติบาท อทินนาทาน กาเมสุมิจ ฉาจาร การพูดโกหกมดเท็จ การดื่มสุราเมรัยประกอบธุรกิจในด้านนี้ก็ต้องชื่อเสียงวิบัติ ส่วนเราที่ไม่วิบัติเพราะเป็นคนรักษาศีลจึงทำมาหากินกับกฎหมาย ลึกๆ เป็นผู้รักษาศีลทั้งนั้น แต่รักษาศีลก็ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น อายุยืน
อย่างอาตมาชาติที่แล้วอาจชอบรักษาศีลแต่ไม่ชอบบำเพ็ญทาน มาชาตินี้ได้เป็นพระแต่จน ปัจจัยถึงมือก็ต้องมีคนมาขอแสดงว่าเราจะได้บุญแล้ว ชาติหน้าจะได้ดีรักษาศีลชื่อเสียงจะได้ดี ทำบุญก็ต้องหน้าตาดีแก้เคล็ดของเราไป นี่เป็นเรื่องจริง คนไม่ถูกติฉินเพราะไม่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ชาตินี้ไม่ถูกคดีความอันเกิดมาจากการใส่ร้าย เพราะชาติที่แล้วไม่เคยใส่ร้ายป้ายสีคนดี คนมีบารมี
พระพุทธเจ้าท่านสอนเมื่อเรื่องราวจบแต่ละเรื่องท่านบอกถึงกรรม คนมีบริวารดาษดื่นเพราะมีเมตตามีผู้คนห้อมล้อม การกรวดน้ำเป็นเครื่องบ่งบอกทำให้เรามีพันธมิตรทั่วจักรวาล เป็นศาสนาเดียวในโลกที่ผูกมิตรกับผี ท่านไม่เสียชีวิตแต่เล็กเพราะผีบ้านผีเรือนคือพ่อแม่ท่าน ไม่ตายเพราะเทวดาคุ้มครอง กัลยาณมิตรเพราะเราเลือกมาจากชาติที่แล้วก็ติดตัวมาในชาตินี้ "คนปรานี ผีรักษา เทวดาคุ้มครอง"
คนมีปัญญาเพราะชอบฟัง ฟังเทศน์ฟังธรรม ใครฟังมากก็ได้ปัญญามาก ฟังสิ่งไร้สาระก็ปัญญาน้อย บันเทิงมากปัญญาก็น้อย นี่คือให้เรารู้จักบุญทำกรรมแต่ง "มีอะไรน้อยกว่าเขาอย่าเศร้าสร้อย ได้อะไรน้อยกว่าอย่าเศร้าหมอง เห็นเขาได้เขามีอย่างที่ปอง เราก็ต้องศึกษาอย่าน้อยใจ บางอย่างได้เพราะบุญหนุนนำส่ง บางอย่างได้ตามประสงค์คนส่งให้"
อย่างเช่น ส่งเสริมคนยิ่งมีตำแหน่งใหญ่โต ก็ยิ่งต้องส่งเสริมเข้าไว้ สังคหวัตถุธรรมมีความจำเป็น 1) ทานคือการให้ 2) ปิยวาจา พูดจากันดีๆ 3) อรรถจริยา มีงานอะไรไปร่วมกันไม่น้ำเงินก็ น้ำแรง 4) สมานัตตตา วางตนให้เหมาะสม "บางอย่างได้เทวดาฟ้าอวยชัย" พ่อแม่จากอดีตชาติที่แล้วเราทำดีต่อท่าน ท่านก็ดูแลลูกอย่างเราข้ามภพข้ามชาติ
ทุกวันนี้ที่ท่านทำอะไรต่างๆ สำเร็จอยู่รอดปลอดภัยมาจากบุญและเทวดาช่วย (ที่เขาไม่ให้เห็นเพราะนรกเห็นแล้วบ้าเทวดาเห็นแล้วคลั่ง) ต้องแข่งขันทางด้านปัญญาแล้วปัญญาจะช่วย เรา ถ้าขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจศึกษา ขี้เกียจฟังแล้วจะโทษใคร
เศรษฐกิจพอเพียงเริ่มจากรากฐานบุญทำกรรมแต่ง แล้วมาปัจจุบันนี้ต้องเชื่อในหลวง ท่านตรัสว่า "ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้นหมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม ทั้งในเจตนาและการกระทำไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญ หรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมา จากผู้อื่น"
ทำงานแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ท่านสอนให้เราทำงานแบบเศรษฐกิจพอเพียง ความสุขความเจริญที่แท้จริงนั้นคือรากฐานการให้ผลแท้จริงอย่าหลอกตนเองอย่าหลอกสังคม แสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น ยศตำแหน่งก็เช่นกันได้เพราะความบังเอิญพ่อแม่เป็นใหญ่ก็เลยได้มาบังเอิญ หรือแย่งขัดขาผู้อื่นให้ล้มนั่นไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริง ในหลวงท่านสอนเศรษฐกิจพอเพียงในด้านหน้าที่การงานและความสุข แล้วเราเจตนาการกระทำเป็นธรรมหรือไม่ บังเอิญหรือไม่ เอามาจากใครหรือเปล่า กีดกันใครไม่ให้ขึ้น ขัดขาใครให้ล้มหรือเปล่า สำรวจดูทุกวัน ลาภต้องไม่ใช่ได้มาด้วยโลภหรือโฉบขโมยแบบอีกา เงินทองที่เป็นปัญหาทุกวันนี้เพราะโฉบขโมยแบบอีกา คือ ฉ้อฉล ฉกชิง จึงมีกระบวนการหลายอย่างและไม่ใช่สุขที่ แท้จริง เห็นบ้านไม้สักทั้งหลังเอามาจากไหน มาอย่างไร นอนอย่างไร ต้องรู้สิ่งที่มี ใจจะบอกทีที่ที่ได้มา
เศรษฐกิจพอเพียงในการแสวงหายศต้องไม่ได้มาด้วยความอิจฉาขัดขากล่าวหาบีฑาเขา เป็นเศรษฐกิจพอเพียงในเรื่องยศซึ่งจำเป็น สรรเสริญต้องไม่ได้มาด้วยการจ้าง (ลิ่วล้อ) บางคนได้การสรรเสริญเพราะประชาสัมพันธ์ตนเองหรือเพราะเลี้ยงลูกน้อง
แต่พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ไปจ้างใคร แต่ได้รับการสรรเสริญด้วยความจริง สุขต้องไม่ได้มาเพราะฉวยฉ้อ มนุษย์ต้องการลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ในกระบวนการนั้นเป็นธรรมหรือไม่เจตนาดีไหมเป็นเศรษฐกิจพอเพียงหรือไม่ ถ้ากระบวนการเราเอามาจากในหลวงนั้นสุดยอด มีคุณค่า ไม่มีใครในโลกเสมอเหมือน ทรงแสดงให้เห็นทุกเรื่องที่เราไม่เคยมองเห็น
ในโอกาสที่ท่านทั้งหลายได้มาฟังเทศน์ฟังธรรมฟังความคิดเห็น ก็เพื่อให้ใจสงบ เกิดพลังปัญญา ร่างกายก็จะไม่ทรุดโทรม ปัจจุบันที่ทรุดโทรมเพราะกิเลสมารบกวน ความปรารถนาจากลาภ ยศ สรรเสริญ สุข โดยไม่เป็นธรรมด้วย การก้าวล้ำผู้อื่นโดยไม่ยืนอยู่บนกฎเกณฑ์ของ บุญทำกรรมแต่ง ทำให้มนุษย์อายุสั้น ทุกข์ใจ ไร้ความสุข และก่อความรำคาญแก่ชาวโลก
No comments:
Post a Comment