จะรวยแบบจนจน หรือจะจนแบบรวยรวย
ไม่เฉพาะแต่สวยเลือกได้ หล่อเลือกได้ จะเป็นคนดี เป็นคนไม่ดี จะทำงานสุจริต หรือจะทุจริตคดโกง จะขยันขันแข็ง หรือจะขี้เกียจสันหลังยาว จะมีความสุขทุกวัน หรือจะระทมทุกข์ตลอดเวลา ที่จริงก็เป็นเรื่องที่เราเลือกได้... ชีวิตมีทางให้เราเลือกเสมอ แต่เรามักมองข้ามไป อาจเป็นเพราะขี้เกียจเลือก เพราะคิดว่าที่มีอยู่ หรือที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่านี้ได้ หรือเพราะพิจารณาไม่รอบคอบ บางครั้งเราเห็นทางเลือกแค่ซ้ายกับขวา ทั้งที่ก็ยังมีตรงกลางให้เลือก หรือบางครั้งเรานึกว่ามีเพียงเดินหน้ากับถอยหลัง ทั้งที่ก็ยังสามารถหยุดอยู่ตรงกลาง เพื่อคิดให้แน่ใจก่อนเลือกว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง เราอาจจะต้องถอยหลังเพื่อไปข้างหน้า เพราะการเดินหน้าอย่างไม่ระวังอาจทำให้เราถอยหลังไปไกลกว่าเดิม...!!
หลายครั้งเราไม่สนใจว่ามีทางเลือก จึงมักจะว่าตามๆ กันไป... ก็ทำตามๆ เค้าไป ใครเค้ามีอะไรเราขอมีด้วยคน ใครเค้าทำอะไรเราขอทำด้วยคน ใครเค้ากินอะไรเราขอกินด้วยคน เห็นใครเค้าทำอะไรสบายๆ ดูง่ายๆ ก็ขอทำกะเค้าด้วย... เห็นคนมีสตางค์ ใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย ใช้ข้าวของแบรนด์เนมราคาแพง ก็ทำตามเค้าไป เห็นใครเค้ามีอุปกรณ์ทันสมัย Hi-tech ก็ขอมีกะเค้าด้วย ปัญหาคงจะไม่เกิด หากการทำตามๆ เค้าไป หรือการมีอย่างที่เค้ามี การเป็นอย่างที่เค้าเป็นเหล่านั้นจะไม่สร้างความเดือดร้อน หรือก่อความวุ่นวายให้ตัวเราเองหรือส่วนรวม
แต่โดยทั่วไป ความอยากได้ อยากมี อยากเป็นเหล่านี้มักสร้างปัญหาต่อเนื่องอย่างเลี่ยงได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ เรามัวแต่มองคนอื่น เราเลยเลือกเป็นอย่างคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเรา ที่มักไม่เหมาะสมกับตัวเรา เพราะเราเห็นคนอื่น แล้วก็คิดไปเองว่าเค้าคงมีความสุขกาย สบายใจ เราเลยเลือกเป็นอย่างเขาบ้าง
บ่อยครั้งที่เราลืมมองตนเอง ลืมมองสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราตามความจริง ลืมสนใจความต้องการที่แท้จริง เราจึงตัดสินใจเลือกไปตามที่เราเห็น โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม เมื่อเลือกใช้ เลือกเป็นในแบบที่ไม่เหมาะสม ความไม่สมดุลที่ตามมา จึงก่อภาระสร้างปัญหาให้ต้องทุกข์ใจได้ไม่หยุดหย่อน ความจริงไม่น่าจะยากที่จะเป็นตัวเอง ที่จะมีความสุขตามสภาพแวดล้อมของตัวเราเอง ที่จะจัดการตัวเองให้เหมาะสมกลมกลืนกับธรรมชาติรอบๆ ตัว
หากเราไม่พิจารณาสภาพแวดล้อมและไม่จัดการปรับตัวเราให้พอเหมาะพอดีกับสภาพแวดล้อมนั้น ถึงจะมีเงินทองหมื่นล้านแสนล้าน มีคฤหาสน์หรูหราในทุกทวีป มีรถยนต์ทุกยี่ห้อ มีเครื่องบินส่วนตัว มีที่ดิน ทรัพย์สมบัติมากมาย รับรองว่าความสุข ความสบายใจก็เกิดขึ้นได้ยาก
ทำยังไงก็จะยังเป็นคนจนแบบรวยรวย อยู่เช่นนั้น จะไม่มีวันร่ำรวยได้อย่างแท้จริง เพราะคนจนแบบรวยรวยเหล่านี้จะเบียดเบียนตนเองโดยไม่รู้ตัว ซ้ำร้ายปัญหาจะขยายวงกว้างขึ้น หากเขาเริ่มเบียดเบียนส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นเพราะต้องการมีทรัพย์สินเงินทองเพิ่มมากขึ้น ต้องการมีอำนาจหน้าที่ ต้องการเป็นใหญ่เป็นโต หรือใช้เงินไปในทางไม่ชอบเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
ตรงกันข้าม หากคนที่ร่ำรวยเงินทองเหล่านี้ รู้จักตัวเองตามความจริง แล้วรู้จักแบ่งปัน รู้จักเผื่อแผ่ให้แก่ส่วนรวม ทรัพย์สินเงินทองเพียงน้อยนิดของเขาจะสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมได้มากมายมหาศาลอย่าง เช่น ค่าอาหารเย็นสุดหรูไม่กี่มื้อ อาจจะสร้างโอกาสให้เด็กบางคนเรียนหนังสือได้เป็นปี หรือราคารถยนต์คันที่ห้าของคนจนแบบรวยรวยเหล่านี้ อาจจะช่วยกอบกู้วิกฤติให้แก่ชุนชนบางแห่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เราเห็นมหาเศรษฐีหลายคนที่บริจาคเงินมหาศาลให้แก่การกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคมในวงกว้าง อย่างมหาเศรษฐีนักลงทุนอย่างวอร์เรน บัพเฟตต์ หรือคุณปู่ของไฮโซสาวชื่อดังปารีส ฮิลตันที่ยกมรดกเกือบทั้งหมดให้การกุศล เพราะเขามองว่าลูกหลานของเค้าไม่ได้ด้อยโอกาสไปกว่าใคร เพราะลูกหลานของเขายังทำมาหากินได้ ยังมีชีวิตที่ดีได้อย่างปกติ เพราะเงินมากมายเหล่านี้ ก็ได้มาจากผู้คนในสังคม จึงควรจะได้กลับไปช่วยเหลือผู้คนในสังคม ไม่จำกัดแต่คนในครอบครัวเท่านั้น คนรวยแบบไม่จนเหล่านี้ เขาไม่เหลิงในความรวย ทำให้นอกจากจะมีความสุขกายจากข้าวของ เครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกราคาแพงแล้ว เขายังมีความอิ่มเอิบเบิกบานใจจากการกระทำของตนเองด้วย
ส่วนใครที่คิดว่ายังไม่รวยพอ ลองพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบตัวเองอีกสักครั้ง แล้วลองวางระบบ จัดระเบียบชีวิตตนเองอีกที หลายท่านอาจจะพบว่าสามารถเป็นคนรวยแบบจนจนได้อย่างมีความสุข เพราะความจน ความรวยในทรัพย์สินเงินทองอาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในชีวิตเสมอไป เรารวยกันได้ทั่วหน้า รวยตามอัตภาพ ตามสิ่งแวดล้อม รวยในแบบของเรา รวยแบบไม่มีใครเหมือน และไม่ต้องรวยเหมือนใคร
ความรวยจริงๆ จากข้างใน ในแบบของเรา จะสร้างความสง่างาม สร้างคุณค่าในชีวิตได้ จนราศี รัศมีแห่งความรวยแข่งเปล่งประกาย ฉายแววให้ผู้คนรอบตัวได้แปลกใจเป็นแน่แท้ส่วนคนรวยที่เหลิงในความรวย ทั้งไม่รู้จักพอ และใช้เงินใช้ทองไม่เป็นประโยชน์ เขาต้องทุกข์ระทม หน้าชื่นอกตรม อาจจะนั่งยิ้มหวานอยู่ในรถหรูหราราคาแพง ทั้งที่ในใจร้อนรุ่ม กระวนกระวาย ไม่สงบ น่าจะต้องลองถามหาความต้องการที่แท้จริงตามธรรมชาติดู แล้วคำนวณจุดสมดุลที่จะปรับจูน ชีวิตให้มีค่า มีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวมดูบ้าง เพื่อจะพบว่าการหยุดวิ่ง หยุดความวุ่นวาย หยุดความร้อนรนในชีวิตทำได้ง่ายกว่าที่คิด ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมายไปจ้างใครต่อใครให้มาช่วยเรา
ลองเป็นคนจนแบบรวยรวยดูค่ะ
No comments:
Post a Comment