Pineapple TH-PH

Done

Saturday, December 15, 2007

พลิกมุมคิด ฝ่าวิกฤต ชีวิต

การสร้างแรงบันดาลใจให้คนเปลี่ยนมุมคิด พลิกมุมมองไม่ใช่เรื่องง่าย

 

"คม สุวรรณพิมล" จึงเลือกเปิดเวทีสัมมนา Coach! For Goal ครั้งที่ 3 ด้วยรูปแบบของ Coaching Edutainment หยิบ เอาตัวละครเอก "แฮรี่" ในหนังสือ Coach! For Goal กลยุทธ์พลิกชีวิต ให้ขึ้นไปโลดเล่นบนเวที สลับกับการนำเสนอเกร็ดชีวิตดีๆ ของนักดนตรี นักกีฬา ผู้มากด้วยความสามารถสลับกับเสียงดนตรี สร้างสีสันบนเวทีให้บรรยากาศอันแสนเศร้าในช่วงชีวิตหนึ่งของแฮรี่น่าติดตามมากขึ้น

 

หลังจาก "แฮรี่" ตกงาน ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า "คม" ได้นำฉากหนึ่งของนักดนตรีชาวเกาหลีที่เล่นดนตรีได้ไพเราะจับใจ หลังเล่นเสร็จผู้ฟังทั้งฮอลปรบมือดังสนั่น แต่นักดนตรีท่านนี้ไม่เคยลุกคารวะใครได้เลย เพราะเขาไม่มีขา แน่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับเขามีนิ้วเพียง 4 นิ้ว

 

นักดนตรีคนนี้ชื่อ ฮีอา ลี เธอเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของร่างกาย มีนิ้วเพียง 4 นิ้ว ไม่มีขา เขาเลือกที่จะเล่นดนตรีเพื่อเป็นการออกกำลังกาย และสิ่งนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจทำให้เขากลายเป็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เขาต่อสู้ชีวิตต่อไปได้

 

"คม" หันไปถามแฮรี่ว่า เขาพิการตรงไหนหรือเปล่า และสรุปว่าแฮรี่น่าจะพิการทางใจ เพราะใจคือหัวใจสำคัญที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ ใจคือสิ่งที่ทำให้นักดนตรีชาวเกาหลีคนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นนักดนตรีระดับโลกได้

 

อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นเรื่องของนักไวโอเรียน ชื่อของเขาคือ Itzhak Perlman ครั้งหนึ่งเขาเล่นดนตรีกลางนิวยอร์ก ระหว่างการแสดงสายไวโอลินเกิดขาดไป 1 สาย คนดูส่วนใหญ่คิดว่าเขาต้องกลับไปเปลี่ยนไวโอลินใหม่ ปรากฏว่าเขาไม่กลับ แต่เขาเลือกที่จะพลิกแพลงเล่นไวโอลินที่เหลือเพียง 3 สายให้ประสบความสำเร็จ

 

หากเปรียบชีวิตคนกับการเล่นไวโอลิน สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องรู้จักพลิกแพลงชีวิต เพราะรุ่งอรุณไม่ได้มีเพียงหนเดียว

 

หลายคนมักจะคิดว่าชีวิตเมื่อตกแล้วจะ ไม่ขึ้นอีก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ชีวิตมีขึ้นมีลง ขึ้นแล้วก็ขึ้นได้อีก

 

ชีวิตคนต่างจากฤดูกาล ฤดูกาลหมุนวนทุกปีแต่ชีวิตคนไม่เคยหมุนตาม เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จคือการใช้ทุกช่วงชีวิตให้ดี ให้คุ้มค่าที่สุด

 

นี่คือข้อสรุปของโค้ช ที่ให้คนที่หมดหวังอย่างแฮรี่ได้คิด และกระตุ้นจิตใต้สำนึกแฮรี่ใหลุกขึ้นสู้ชีวิตอีกครั้ง

 

"...อย่าไปคิดว่าชีวิตจะเป็นอย่างนี้แล้วจะดำเนินต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ เมื่อเจอทางตันคุณ ก็ตันจริงๆ ทุกคนต้องรู้จักพลิกแพลงชีวิต เหมือนหมีแพนด้าจริงๆ เขาไม่ได้อยากกินไผ่ แต่เพราะสถานที่ที่เขาอยู่มีแต่ไผ่ เขาก็เลยต้องกินไผ่เพื่อการอยู่รอด นั่นคือการพลิกแพลงชีวิตให้เรา เติบโตได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในชีวิต"

 

จากนั้น "คม" ได้หยิบนิทานเรื่องลิงอยากกินขนมมาฉายภาพให้ทุกคนไดรู้จักการแยกแยะปัญหา

 

"ปัญหาใดที่ควบคุมได้ก็ควบคุม หากปัญหาใดควบคุมไม่ได้ก็ควรที่จะปล่อยวาง เพราะชีวิตคนคนหนึ่งต้องเจอปัญหาอุปสรรคมากมาย อย่าไปแบกรับปัญหาไว้ทั้งหมด"

 

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและน่าสนใจ คือ ความเชื่อ มีผลต่อความสำเร็จของชีวิตคนมาก

 

"โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ นักวิ่งวัย 60 ที่ปัจจุบันได้รับการบรรจุให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรอบ 1,000 ปี เพราะอะไรเขาถึงได้รับตำแหน่งนี้

 

เหตุเพราะในอดีตมีความเชื่ออยู่ 1,000 ปีว่าคนคนหนึ่งไม่สามารถวิ่ง 1 ไมล์ได้ในเวลาต่ำกว่า 4 นาที แต่โรเจอร์ แบนนิสเตอร์เป็นคนแรกที่ทำได้ หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนทำลายสถิติอีกหลายคน"

 

"คม" บอกว่า โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ ทำให้คนที่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกใบนี้ไม่ได้อยู่เหนือความพยายาม ความสามารถของมนุษย์

 

หรือกรณีของช้าง ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่าเคยเห็นช้างถูกล่ามโซ่เล็กๆ กับเสาต้นไม่ใหญ่มากนัก หากพูดตามความเป็นจริงช้างเหล่านี้มีกำลังมากพอที่จะดึงโซ่เส้นนี้ให้ขาดได้ แต่ทำไม เพราะเหตุใดช้างเหล่านี้จึงไม่ดึง ยอมถูกล่ามโซ่อยู่ตลอดเวลา

 

คำตอบคือ ช้างเหล่านี้ถูกล่ามโซ่มาตั้งแต่ยังเล็ก และเขาก็พยายามดึงแล้วตอนยังเล็กแต่ดึงไม่ขาด เมื่อโตขึ้น มีกำลังมากขึ้น แต่ช้างเหล่านี้ทำไมไม่ดึงโซ่ให้ขาด เพราะเขาเชื่อว่าโซ่เส้นนี้ดึงไม่ขาด

 

เปรียบเสมือนชีวิตคนเราที่ชอบคิดว่า เราทำอะไรไม่ได้ คิดว่าฉันไม่น่าจะเติบโตได้กว่านี้ ฉันไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ เป็นข้อจำกัดที่ทำให้ตัวเองทำอะไรไม่ได้

 

และนี่คือภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า เพราะเหตุใดเราจึงต้องปรับความคิดของตัวเองให้เป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่มองข้อจำกัดในชีวิต ไม่ไปมองเชือกที่เท้าช้าง

 

นอกจากเรื่องของความเชื่อ การแยกแยะปัญหา และการเปลี่ยนมุมมองเป็นคนมองโลกในแง่ดีแล้ว โค้ชบนเวทีแห่งนี้ยังเปิดมุมมองชีวิตใหม่ด้วยกราฟชีวิต ที่ให้ทุกคนมองเป้าหมายในชีวิตเสียใหม่

 

"ชีวิตคนเรา ประกอบด้วยหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย ทั้งเงิน ความก้าวหน้าในชีวิต ครอบครัว เพื่อน ความรัก ความสัมพันธ์ อาชีพ ความมั่นใจ ภาพลักษณ์ของตนเอง ความสุข การสร้างสรรค์ สุขภาพร่างกาย แต่การใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่มักมองเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว"

 

เมื่อมองเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ สิ่งที่เหลือถูกละทิ้งไปทั้งหมด

 

เมื่อเอาเงินเป็นตัวตั้งความสัมพันธ์กับเพื่อนอาจจะเสียไป

 

เมื่อเอางานเป็นตัวตั้งความสัมพันธ์กับครอบครัวอาจหายไป

 

เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีเป้าหมายในชีวิต มีความฝัน อยากเป็นอะไร อยากทำอะไร

 

การตั้งเป้าหมายในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะทำให้จิตใจจดจ่อกับเรื่องนั้น การเดินไปสู่เป้าหมายจึงไม่ใช่เรื่องยาก

No comments: