Pineapple TH-PH

Done

Wednesday, September 1, 2010

ทำอย่างไรก่อนญาติกำลังจะตาย

ทำอย่างไรก่อนญาติกำลังจะตาย

How to do during nearly dead?

สมหวัง  วิทยาปัญญานนท์

23  มีนาคม  2549
Font : CordiaUPC  
  

 

เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อว่าการตายก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แต่เหตุไฉนจึงไม่ค่อยมีคนสอนถึง หากมีญาติสนิทไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง อา หลาน ปู่ ย่า ตา ยาย กำลังจะลาจากไปจากโลกนี้ เราจะต้องทำอะไรบ้าง เห็นมีแต่ร้องห่มร้องไห้ หรือทำอะไรก็ไม่รู้ชุนมุนไปหมด

      หลักการมีอยู่ว่า คนที่กำลังจะตาย หากมีอารมรณ์จิตผ่องใส ตายไปแล้วก็จะไปอยู่สุขคติภูมิ แต่หากมีอารมณ์วิตก เศร้าหมอง เป็นทุกข์ ก็จะไปสู่ทุกข์คติภูมิ หรือ อบายภูมิตามหลักความเชื่อ ตายแล้วไปเกิดที่ใหม่ บางคนเถียงว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง คนที่ทำไม่ดี ทำอกุศลมามากๆ แล้วมาทำอารมรณ์ดีๆก่อนตาย ก็ได้ไปสวรรค์ซิ คำตอบคือเป็นไปไม่ได้ นั่นคือคนที่ทำไม่ดีมาทุกวันจนเป็นนิสัย และจะมาเปลี่ยนตอนก่อนตายที่อยู่ในขณะวิกฤติได้อย่างไร

      สิ่งที่ห้ามทำก่อนญาติกำลังจะตาย ห้ามร้องไห้จนบรรยากาศสลด และอย่านึกว่าเขาไม่ได้ยิน ร้องไห้จะทำให้เขาวิตก หากทนไม่ได้ให้รีบไปร้องไห้ไกลๆ ในห้องน้ำก็ได้ อย่าพูดเรื่องค่ารักษาพยาบาลว่าแพง เขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นภาระที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ห้ามพูดเรื่องการแบ่งมรดกหรือทะเลาะกันเรื่องมรดก เพราะเขาจะรู้สึกว่า ลูกๆขาดความสามัคคี พ่อยังไม่ทันตายก็มาแย่งมรดกทรัพย์สมบัติกัน และที่มางานพ่อ หรือมาแย่งมรดกกันแน่

      สิ่งที่ควรพูดควรทำ ก่อนญาติจะตายคือ ให้ญาติมานั่งล้อมวงพูดดีๆ ดังๆ ให้เขาทราบว่า ญาติมาเยี่ยม ไม่ต้องเป็นห่วงใครๆก็เอาตัวรอดหมด หากคนใดมาปัญหาก็มอบให้ใครไปดูแลแล้วไม่ต้องห่วง หากมีกิจกรรมใดที่ส่งมา ก็บอกไปว่าได้ทำตามที่สั่งไว้หมดแล้ว อาจะเป็นเรื่องเคลียร์หนี้ ทำพินัยกรรม หรืออื่นๆที่ทำให้ญาติหายห่วงข้างหลัง ต่อไปก็เป็นการชวนให้ฟังว่าสิ่งดีๆที่เขาทำก่อนถึงปัจจุบันนี้ มีหลายอย่างให้เขานึกสิ่งดีๆนั้นให้ลองนึกดู สิ่งที่ประทับใจในการทำบุญ เคยสร้างวัด เป็นต้น พูดถึงหลวงพ่อที่เขาศรัทธา คนที่จะพูดก็ต้องพอดูประวัติของคนนี้กำลังจะตายด้วย สำหรับคนมีปฏิบัติธรรมมาก่อน มองเรื่องพระเรื่องธรรมะ เป็นเรื่องปกตินิสัย ก็อาจนำพระพุทธรูปมาวางไว้ที่หัวเตียง อาจให้ญาตินั่งล้อมวง สอดคาถาพาหุง ชินบัญชร       อิติปิโส ทั้งนี้ให้ดูสีหน้าเขาด้วยว่าเขารู้สึกหน้าผ่องใสหรือเปล่า หาคนนิมนต์พระมาเทศน์ให้ฟังก่อนตาย บางคนไม่ถูกโฉลกกับพระกับบทสวด ก็อาจเปิดเพลงเพราะๆบางๆให้อารมรณสงบผ่องใสแทน มิเช่นนั้นสีหน้าอาจดูขรึมได้ ทั้งนี้อาจต้องสร้างบรรยากาศให้ดูให้ดูผ่องใสจิตใจจะผ่องใสได้ง่ายขึ้น บางคนกลัวตายสุดๆก็ต้องเตรียมใจเขาก่อนนี้จะตาย บางคนอาจล่วงหน้าได้หลายวันเพราะเป็นโรคชรา โรคเสื่อมสภาพ บอกว่าความตายไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่เป็นสิ่งธรรมชาติ ตายแล้วก็จะไปอยู่ กับหลวงปู่ที่เขาศรัทธาที่มรณภาพไปแล้วก็ได้ หากเป็นโรคปัจจุบันโรคอุบัติเหตุ การทำให้เขาหายกลัวตายก็จะลำบาก อาจให้เขากำพระในมือให้แน่ๆก็ได้

      ให้สังเกตจริตคนที่กำลังจะตายด้วย หากคนช่วยธรรมชอบธรรมะ สวดมนต์ก็จะได้ผล เอาพระพุทธรูปมาวางให้เห็นจะเป็นสุข ให้สังเกตใบหน้าจะอิ่มผ่องใสเป็นสุข หากจริตเขาเป็นคนเอะอะโวยวายไม่ค่อยเข้าวัด มองธรรมะเป็นของเชยของล้าสมัยก็สวดให้ฟังอาจหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อเห็นอย่างนี้ให้เลิกเสีย

      อารมณ์คนก่อนใกล้ตาย จะเป็นฝันครั้งสุดท้ายก่อนตาย เหมือนเปิดโทรทัศน์ดูก่อนตาย ภาพดีขอเป็นวัดสวยๆพระเดินมา การทำความดี พระพุทธเจ้า เสียงสวดมนต์การกล่าวสดุดี หากเป็นภาพไม่ดีก็เป็นภาพการฆ่าฟัน  การตาย

      อารมณ์ 3 ของคนใกล้ตาย มีดังนี้

  1. กรรม อารมณ์

เป็นอารมณ์ของผู้จะตายเห็นภาพว่าเคยทำอะไรมาในชาตินี้ก่อนจะตาย มีทั้งดีและไม่ดี อาจะเป็นการช่วยเพื่อนหรือภาพกำลังฆ่าใครอยู่

  1. กรรมนิมิตอารมณ์

เป็นอารมณ์ที่เห็นภาพเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่เคยทำดีมาก่อน อาจเป็นวัด

  1. คตินิมิตอารมณ์

เป็นอารมณ์ที่เห็นสภาพ สถานที่ หือสิ่งของ ที่จะไปในอนาคตในโลกหน้า อาจะเป็นเทวโลก นรก ไฟ สัตว์นรก ช้างม้า วัวควายหมา นั่นคือ สิ่งที่จะไปหลังดับขันท์ที่จะเห็นสวรรค์หรือนรก และเกิดใหม่เป็นคนเป็นสัตว์

ดังนั้นจงหมั่นสังเกตอารมณ์ของคนใกล้ตาย ถ้าดีก็จะหน้าผ่อง ถ้าไม่ดีก็จะหน้าเครียด พยายามโน้มน้าวพูดให้เห็นถึงอารมณ์ 3 ในเชิงที่ดี คือ เห็นความดี ที่ตนเคยทำ เห็นสัญลักษณ์ที่ตนเคยทำ วาดภาพโลกหน้าที่จะไปคือสวรรค์หรือโลกมนุษย์ในตระกูลที่ดีๆรวยๆ

No comments: