Pineapple TH-PH

Done

Monday, January 28, 2008

"51 สิ่งที่ผมเรียนรู้เมื่ออายุ 51"

เพื่อนๆที่รัก

ในโอกาสวันขึ้นปี พ.ศ. 2551 ที่มาถึง ผมมีโอกาสนั่งอยู่กับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเลยเขียน ออกมาให้อ่าน
กันเล่นๆ
ถือเป็นของขำวันปีใหม่ ให้เพื่อนๆทุกคนนะครับ

'51 สิ่งที่ผมเรียนรู้เมื่ออายุ 51'

1. ตอนขึ้นปีใหม่นี้ ไม่มีเรื่องอะไรที่ผมต้องกลุ้มใจมากนัก เพราะชักจะจำ
เรื่องราวเหล่านั้นไม่ ค่อยได้ซะแล้ว
2. เมื่อคืน วันส่งท้ายปีเก่าก็ไม่เมา เพราะไม่มีใครเค้าคิดจะโทรมาชวน
ออกไปเที่ยวต่อ แถมยัง ต้องเข้านอนเร็วขึ้นกว่าคืนอื่นด้วย
เพราะว่ามีคนชวนไปทำบุญที่วัดเมื่อตอนเช้าวันนี้
3. ไม่รู้สึกเจ็บกระดูกข้อเท้าอันเกิดจากการวิ่งอีกต่อไป เพราะออกไปวิ่งไม่ไหว
4. ตอนนี้เวลาคนเรียกว่า ลุง ก็ไม่โกรธ
5. ดู music video เพลงรักซึ้งล่าสุดของ อัสนี-วสันต์แล้วไม่นั่งเหม่อลอย
มองท้องฟ้า หรือต้อง รีบร้อน message หาใครซักคนเหมือนเคย
6. โฆษณากางเกงยีนส์ Armani ลดราคาหน่ะไม่ได้กินเงินผมอีกต่อไปหรอก แต่
ถ้า กางเกงชาวเล ลดราคาล่ะก็.. ไม่แน่
7. ตัวแทนบริษัทของประกันไม่ค่อยโทรมาตื้อแล้ว หรือไม่ก็เป็นฝ่ายขอ
วางสายเอง เมื่อทราบอายุ
8. มีเงินซื้อ Viagra มาเก็บไว้ดูเล่นเยอะๆได้
9. ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในช่วงนี้ คุณภาพ น่าจะสำคัญกว่า ปริมาณ
10. มีเส้นผมสีขาวแซมรอบศรีษะบ้าง ก็ดูเท่ดี
11. เริ่มจะเข้าใจแล้วว่า หากเราหัดทำใจให้กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเก่า
ความเป็น
ทุกข์จะน้อยลง
12. รู้ว่าคนเราควรกินอาหารแต่พอดี หากใส่เข้าไปมากเกินไป ตอนจะเอาออก
ไปให้เหลือสมดุลย์นั้น ยากกว่า ตอนเอาเข้าไป ราวๆ 10 เท่า

13. เพิ่งทราบว่า หายใจไม่ถูกวิธีมาตลอดห้าสิบปี
ตอนนี้กำลังฝึกหายใจใหม่ -
อย่างมีสติ และเป็นสุข แบบที่ท่านติช นัท ฮันห์ สอนเอาไว้
( ขอแนะนำว่าทุกคนควรลองหัดนะ ขณะ ที่ยังสามารถหายใจได้อยู่ )

14. ประหยัดค่าไอสครีม hot fudge sundae
ราดหน้าวิปครีมไปเยอะเพราะหมอประจำ
ตัวบอกว่า จะสั่งแบบแพงพิเศษยังไงก็ไม่ว่ากัน ดูได้ -แต่ห้ามกิน

15. รู้จักปลูกกล้วยกินเอง

16. กินผักหรือผลไม้ มื้อเย็นทุกวันก็อิ่มได้ เป็นประโยชน์และชักจะขา
ดไม่
ได้ซะแล้ว ส่วนละครทีวี หรือเกมส์โชว์ไม่ได้ดูมาร่วมสิบปีแล้ว
ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ - โดยไม่รู้สึกว่าขาดอะไร

17. ภรรยา เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชีวิต
และจะอยู่กันจนกว่าจะตายกันไปข้าง
นึง ดังนั้นควรทะนุถนอมด้วยความรักอย่าให้บอบช้ำ
หรือโดนกระทบกระเทือนแรงๆ ไม่ว่าจากเรื่องใดก็ตาม

18. สามีที่เป็นสถาปนิกส่วนใหญ่ ก็เปราะบาง และช้ำง่าย ควรได้รับ
การเอ็นดู ทะนุถนอม จากภรรยาไม่แพ้กัน

19. ลูก ผมไม่มี แต่หากมี เค้าก็น่าจะเลือกสิ่งที่เค้าชอบเอง
-กล้าตัดสินใจ
เอง จ ะผิดหรือถูก ก็
เป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิตการเรียนรู้ควรส่งเสริมและให้กำลังใจ

20. ไม่มีใครไม่เคยพลาดหรอก แต่ขอให้ทำสำเร็จมากกว่าทำพลาด
ก็เพียงพอแล้ว

21. ผมบอกหลานๆว่า ขอให้ชำนาญเพียงสามอย่าง หนึ่งภาษาอังกฤษ
สองว่ายน้ำและ สามศิลปะการป้องกันตัว เพราะเค้าต้องอยู่ในโลกแห่งการต่อสู้นี้อีกนาน

22. ควรทำให้คนในบ้านและคนรอบข้างมีความสุข ก่อนที่จะเดินทางไป
ทำบุญทำทานที่ไหนไกลๆ

23. ไม่เห็นจะต้องขับรถเร็วมากเหมือนเคยเลย ปลอดภัยกว่
าถึงที่หมายเหมือนกัน
แถมประหยัดน้ำมันอีกด้วย แล้วรถยนต์จะยี่ห้ออะไรก็ชักดูคล้ายคลึงกันหมด
ขอให้มันสตาร์ทติด แอร์เย็น มีลมยาง และ วิ่งได้เถอะ

24. เครื่องออกกำลังกาย ไม่ว่ารุ่นวิเศษแค่ไหน
ถ้าซื้อมาเกินสามเดือนจะกลาย
เป็นที่พาดผ้าของทุกๆคนในบ้าน และถ้าเลยเจ็ดเดือนแล้ว มันจะถูกย้ายไปอยู่
ในห้องเก็บของรวมกับเครื่องอื่นที่เคยซื้อมา

25. 'ทำ' ดีกว่า 'คิดว่าจะทำ' - ประมาณ 51 เท่า !

26. ข้อดีของการมีอายุมากขึ้นก็คือ ไม่พลาดอย่างที่เคย
ถูกหลอกน้อยลงเป็นตัว ของตัวเองมากขึ้น
มั่นคงขึ้น และมีเสรีมากขึ้น, ข้อเสีย -ไม่มีหรอกน่า - มองให้มันดีก็แล้วกัน !

27. ทัศนคติในปัจจุบัน น่าจะเป็นผลรวมของบทเรียนดีๆที่ผ่านเข้า
มาบวกกับ
ทบทวนความผิดพลาดที่ เคยทำไป ลบด้วยเรื่องที่ควรจะลืมได้แล้ว

28. พอเข้าใจโครงสร้างของประเทศไทยของเราได้ดีขึ้น
และก็เรียนรู้ที่จะอยู่
ด้วยกัน ท่ามกลางระบอบอันหลากหลาย

29. เปิดประตูรับคำสั่งสอนทางศาสนา เข้ามาในชีวิต
เป็นเหยื่อน้อยลงมีความ
เป็นเจ้าของน้อยลงกลัวน้อยลง และเพิ่มเวลาทำใจภาวนาสู่สมาธิ

30. เคยสะสมนาฬิกาดีๆอยู่เยอะมาก แต่ตอนนั้นมีเวลาน้อย
ตอนนี้เปลี่ยนใจขายไป
แทบหมด เหลือ นาฬิกาอยู่น้อยมาก แต่ขอสะสมเวลาดีๆ เยอะๆ

31. รู้เลยว่าขณะนี้ ชีวิตในกรุงเทพฯ
ไม่ค่อยเหมาะกับผมซะแล้วไม่ถึงกับอยู่
ไม่ได้ เพียงแต่ต้องการ เดินช้าลง ในที่กว้างๆ เงียบๆต้นไม้เยอะๆ
เห็นเส้นขอบฟ้าชัดๆ
ได้มองดาวเต็มตา ทุกคืน และอากาศ สะอาด

32. ผมอยู่ในใจกลางเหตุการณ์ สึนามิ
เมื่อสามปีก่อนธรรมชาติและคลื่นยักษ์
เหล่านั้น ได้สอนให้ผมได้รู้จักจุดเปลี่ยนผ่านของชีวิต
ที่ไม่อาจฝืนต้านทาน
หรือต่อรองใดๆได้ - ไม่ว่า จะเป็นใครก็ตาม และรู้จัก
ความงดงามระหว่างเพื่อนมนุษย์ ท่ามกลางโศกนาฏกรรม

33. ถ้าอยากได้เพื่อนใหม่ๆที่ดี ก็น่าจะทำสิ่งดีๆกับเค้าก่อน

34. หัวเราะมากๆ ออกกำลังกาย และกำหนดลมหายใจ ทุกๆวัน -
ทั้งหมอและพระ บอกว่า ช่วยรักษาโรคได้สารพัด

35. Golf ไม่ใช่กีฬาที่เล่นเพื่อคิดจะชนะใคร
แค่ตกลงกับตัวเองให้ครบทุก
อิริยาบถ ยังทำได้ไม่ทุกครั้งที่ตี

36. หนังสือดีๆของไทย ราคาไม่แพงเอาเลย เมื่อเทียบกับเหล้าขวดนึง

37. หากตื่นเช้ามาแล้วกระตือรือล้นอยากทำอะไรแบบนั้นบ่อยๆ
นั่นแหละ..น่าจะ
เลือกเป็น อาชีพ ของคนๆนั้น ในทางกลับกัน หากตื่นเช้าขึ้นมาทุกวันแล้ว
ไม่อยากทำเอาซะเลย ก็น่าจะ เลิกได้แล้ว

38. หากเกลียดใครมากๆ จงยุให้เค้าทำร้านอาหารที่เริ่มต้นขายตั้งแต่เช้า
และ
ให้ขายเหล้าทุกชนิดด้วย ผมเคยทำแล้ว รู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์จริงๆ
ตอนที่มีคนมาขอซื้อกิจการต่อ ก่อน หน้านั้นตกนรกล้วนๆ ทุก
คืน โดยเฉพาะตอนที่นั่งรอคนเมาคนสุดท้ายกลับบ้าน
ช่วงอารมณ์แบบนั้นไม่ใช่เรื่อง
ที่จะเกลี้ยกล่อมใคร ที่ เหลือสามัญสำนึกน้อยมาก ให้สำเร็จได้ง่ายๆ

39. ผมเองก็เคยเป็นคนเมาคนสุดท้ายที่เพื่อนพาออกจากร้านอาหาร
บ่อยๆโดยที่
เจ้าของนั่งรอคอย อยู่ ก็คงต้องเชื่อแล้วล่ะว่า กรรมสนองมีจริง

40. ยิ้ม ช่วยคนไทยได้เสมอ ในทุกอย่าง ทุกสถานการณ์

41. แคมป์คนงานก่อสร้าง ตลาดนัดท้ายรถ อู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์
และคาราโอเกะที่
เพิ่งมาปลูกอยู่รอบที่ดินผืนงามเชิงเขา ที่เราหมายจะสร้างบ้านหลังใหม่
ซึ่งบรรจงออกแบบตามความฝันมานานนับปี ถือเป็นตัวแปรผันสำคัญ
ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ทั้งจากข้อมูลทางสถาปัตยกรรมเมืองร้อน
จากระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง การเข้าถึงอาคาร ตำราฮวงจุ้ยและ
อื่นๆอย่างสุดวิสัย - ตอนนี้ ผมกำลังใช้เวลาส่วนใหญ่ ออกแบบป้ายประกาศ
ขายที่ดินให้สวยงามและน่าดึงดูดใจอยู่

42. ก็ตอนปีที่ซื้อมันไม่มีนี่หว่า!
และก็นึกไม่ถึงว่าครอบครัวเจ้าของที่
ข้างๆเค้าจะให้ใครเช่าง่ายๆแบบนี้! ที่จริงที่ดินก็ราคาแพง
แต่ทราบภายหลัง
ว่าเค้าขายกันไม่ได ้เพราะพินัยกรรมเขียนไว้ว่าห้ามซื้อ
ขายภายในสิบห้าปีข้างหน้า ตอนนี้ให้เก็บผลประโยชน์กินเท่านั้น -
ผมหน่ะรอนาน ขนาดนั้นไม่ไหวหรอกถึง ตอนนั้นอาจทำได้เพียง - เขียนพินัยกรรมเช่นกัน

43. ถ้าจะเรียกว่าซวยก็คงได้ แต่หากเรียกว่า
ถือเป็นประสบการณ์ก็อาจช่วยให้
รู้สึกดีขึ้นบ้าง- เมียผมบอกยังงั้น ; คำสอนของท่านพุทธทาสฯเรียกว่า
'ตถาตา' หรือ-มันเป็นเช่นนั้นเอง ตอนนี้ผม
กำลังฝึกใจให้ว่างสว่าง สงบ สลับกับดื่มเบียร์เย็นๆ ดับอารมณ์อยู่ทุกคืน

44. ไม่ควรสบประมาทใครเลยทั้งนั้น เพราะวันหนึ่ง หากตั้งใจจริงขึ้นมา
เค้า
อาจจะทำสิ่งนั้นได้ดีกว่าเรามาก

45. ตอนที่ยังหนุ่มและเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ผมเข้าใจว่า
เงินเป็นสิ่งสำคัญที่
สุด บัดนี้ - อายุขนาดนี้ ผมและภรรยาเลือกที่จะมีชีวิตอย่างอิสระ
โดยไม่มีสวัสดิการใดๆรองรับและรับ อุปการะหลานๆเอาไว้อ ีก
5 คน ขอบอกว่า เงินหน่ะ-สำคัญมากจริงๆ!

46. แต่คงไม่ที่สุด เพราะชีวิตในทุกวันที่ผ่านไป
นอกเหนือจากปัจจัยสี่แล้ว
ยังมีความรู้สึกชื่นใจ ภาคภูมิใจ ความรัก รอยยิ้ม และสำนึกผิดชอบชั่วดี
ซึ่งยังเป็นส่วนที่เงินแลกไม่ได้ ทั้งหมด อีกทั้งการตัดสินใจที่
คิดแต่เงินเท่านั้นเป็นศูนย์กลาง ทำให้ทุกอย่างบิดเบี้ยวเอาได้ง่ายๆ

47. ความยังยั่งยืนของความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน โดยไม่มีเงื่อนไข
คงยืนยัน
เรื่องเหล่านี้ได้เสมอ

48. ที่คุยกัน ยิ้มกัน ตลกกันอยู่เนี่ยะนะ อีกแค่ไม่กี่ปีเอง จะอายุ
60 กัน
หมดแล้ว

49. ตามสถิติที่เก็บเอาไว้
ของกระทรวงสาธารณสุขพวกเราน่าจะเหลือเวลาเดินไป
เดินมา บนโลก นี้อีกไม่เกิน 21-22 ปียกเว้นคนที่โชคดีกว่า

50. มาถึงปีนี้แล้ว... ตอนนี้แล้ว... ยังจะมีข้ออ้างอะไร
ที่จะไม่เลือกทำใน
สิ่งที่อยากทำอีก?

51. สุดท้าย.. ผมยังหวังที่จะเติบโต และเปลี่ยนแปลงต่อไป ยังไม่ยอมแก่
ง่ายๆหร๊อก.... :-))))

ขอให้สุขภาพกาย สุข ภาพใจ และความรักในครอบครัว แข็งแรง รวมทั้ง
สุขแบบยั่งยืนกันทุกคน สวัสดีปีใหม่ครับ

เก้า
1 มกราคม 2551, ภูเก็ต

ป.ล. ที่จริง อยากเขียนให้ครบ 84 ข้อ เท่ากับจำนวนนิสิตของชั้นเรา แต่ก็นึกได้
เพียงเท่านี้ ใครนึกออก ช่วยกันเติมให้ครบด้วยนะครับ
แล้วก็ขอฝากรูป ยามเย็น ณ.หาดราไวย์ ที่แวะไปถ่ายมาให้เพื่อนๆได้ดูเล่นเย็นๆใจ
รับขวัญวันที่อายุมาก ขึ้นอีกปี

No comments: